ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ภาคเหนืออ่วม ฝนถล่ม ดินไหล น้ำป่าหลาก บ้านเรือนประชาชนเสียหายหนัก

เช้านี้ที่หมอชิต - เป็นไปตามคำเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา เมื่อตลอดทั้งวานนี้ทั่วทุกภาคมีฝนตกหนักถึงหนักมาก บางพื้นที่โดยเฉพาะภาคเหนือมีน้ำท่วมฉับพลัน ดินไหล น้ำป่าหลาก ทำให้บ้านเมืองเสียหาย ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

ภาคเหนืออ่วม ฝนถล่ม ดินไหล น้ำป่าหลาก บ้านเรือนประชาชนเสียหายหนัก
เริ่มที่ จังหวัดลำปาง ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องบนยอดเขาสูงในเขตอุทยานแห่งชาติดอยหลวง รอยต่อพื้นที่จังหวัดเชียงราย พะเยา และลำปาง เกิดน้ำป่าทะลักลงมาตามน้ำตกวังแก้วอย่างน่ากลัว เจ้าหน้าที่ต้องแจ้งเตือนภัยด่วนไปยังหมู่บ้านท้ายน้ำ ในพื้นที่อำเภอวังเหนือ ทันที เพื่อพร้อมรับมือ เนื่องจากเป็นมวลน้ำก้อนใหญ่ ที่ไหลบ่าทะลักลงมาเป็นจำนวนมาก ให้ระวังลำห้วยสาขาต่าง ๆ อาจเกิดล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือน รวมถึงสั่งเฝ้าระวังปริมาณน้ำในแม่น้ำวังตลอด 24 ชั่วโมง เพราะปริมาณน้ำอาจเพิ่มสูงขึ้นมาฉับพลันจากน้ำป่าทะลักลงมาจากบนยอดเขาสูงด้วย

ส่วน จังหวัดพะเยา น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ตำบลงิม อำเภอปง ชาวบ้านได้รับผลกระทบ 5 หมู่บ้าน 100 หลังคาเรือน พื้นที่เกษตรได้รับผลกระทบ 19 หมู่บ้าน ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงสำรวจความเสียหาย

เบื้องต้นทางเทศบาลตำบลงิม ได้นำน้ำ อาหาร เข้าไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน เพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว เนื่องจากชาวบ้านไม่สามารถที่จะประกอบอาหารรับประทานเองได้

ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมคณะลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากฝนตกหนัก และน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 2 อำเภอ คือ อำเภอน้ำปาด และ อำเภอท่าปลา รวม 8 ตำบล 40 หมู่บ้าน 311 หลังคาเรือน ถนนและสะพานชำรุดหลายแห่ง พื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ยังคงเฝ้าระวังปริมาณน้ำป่าอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นทางจังหวัดมอบสิ่งอุปโภค บริโภค และเงินเยียวยา เพื่อช่วยเหลือประชาชนเบื้องต้นแล้ว

ภาคกลางเตรียมรับมวลน้ำ - ป้องกันผลกระทบ
อิทธิพลพายุฝนในภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่เหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในจังหวัดเพชรบูรณ์ และลพบุรี ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บนำ้ของเขื่อนกว่า 324 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงจำเป็นต้องทยอยพร่องน้ำ ไว้รองรับมวลน้ำขนาดใหญ่จากฝนที่ตกสะสมก่อนหน้านี้ จึงได้ออกประกาศเตือนหน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน และประชาชนที่อยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่จังหวัดลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันผลกระทบ และความเสียหายของทรัพย์สินจากการระบายน้ำ

ส่วนสถานการณ์ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ต้องระบายน้ำเพิ่ม มีอัตราการระบายน้ำลงสู่ด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลทำให้ระดับน้ำทางด้านท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้น ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำเตรียมการรับมือ เก็บสิ่งของขึ้นสู่ที่สูง และออกมาก่อสร้างที่พักชั่วคราวริมถนนคันคลองมหาราช หากเกิดน้ำท่วม

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark