ชี้แจงดำเนินคดี ส.ต.ท.หญิง ทำร้ายอดีตทหารรับใช้

เช้านี้ที่หมอชิต - มีคำยืนยันจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะไม่ปกป้องช่วยเหลือสิบตำรวจโทหญิง ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายอดีตทหารรับใช้จนได้รับบาดเจ็บ พร้อมดำเนินคดีและตั้งกรรมการสอบสวนวินัยอีกด้วย

พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับสิบตำรวจโทหญิง ว่าตำรวจได้สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องทั้ง 2 ฝ่าย ไปแล้วกว่า 10 ปาก ให้การสอดคล้องกันว่า ผู้เสียหายรู้จักกับผู้ต้องหาตั้งแต่ปี 2559 ต่อมาต้นปี 2564 ผู้ต้องหาเริ่มทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย สาเหตุมาจากทำงานไม่ถูกใจ กระทั่งปี 2565 การทำร้ายร่างกายหนักขึ้น ผู้เสียหายจึงนำเรื่องไปบอกญาติ ก่อนขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อสอบปากคำผู้เสียหายแล้วน่าเชื่อว่ามีเหตุเกิดขึ้นจริง ต่อมาตำรวจจึงนำหมายค้นเข้าตรวจบ้านที่เกิดเหตุในจังหวัดราชบุรี พร้อมทั้งนำตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายเพิ่มเติม

นำไปสู่การเข้ามอบตัวของผู้ต้องหา และถูกแจ้งข้อหาในความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ พร้อมนำตัวไปฝากขังต่อศาล และถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ 

ส่วนกรณีข้อสงสัยที่ว่า สิบตำรวจโทหญิง ผู้ต้องหาซึ่งปัจจุบันอายุ 44 ปี เข้ารับราชการเมื่อปี 2560 แต่เกณฑ์​การบรรจุ​บุคคล​ภายนอกเข้ารับราชการ​ตำรวจ​จะรับผู้ที่อายุไม่เกิน 35​ ปี แต่สิบตำรวจโทหญิงเข้าไปเป็นตำรวจตอนอายุ 39 ปี ได้อย่างไร เรื่องนี้ทางตำรวจชี้แจงว่า ผู้ต้องหาใช้คุณวุฒิ ปวส. จบด้านบัญชี ในการบรรจุรับราชการ โดยสำนักงบประมาณตำรวจพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นคุณวุฒิที่ขาดแคลน มีความจำเป็น
 
ส่วนต้นสังกัดของตำรวจหญิง คือ กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 ล่าสุด ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง พร้อมดำเนินคดีอาญา ซึ่งมีคำยืนยันเช่นกันว่าการดำเนินการกับผู้ต้องหารายนี้ ไม่มีอภิสิทธิ์ใด ๆ เป็นการดำเนินการตามกรอบของกฎหมาย ใช้มาตรฐานเดียวกัน ไม่มีการช่วยเหลือกันแน่นอน