คลิปที่เกี่ยวข้อง

อ่วม หนี้สินครัวเรือนพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์

เช้านี้ที่หมอชิต - เรียกว่าภาวะเศรษฐกิจที่รุมเร้าเรา ๆ ท่าน ๆ รับรู้สัมผัสกันได้ทุกคนแล้ว โดยพบข้อมูลที่น่ากังวลว่าคนไทยมีภาระหนี้สินครัวเรือนเพิ่มเป็นกว่า 501,000 บาท สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ และยังพบด้วยว่ามีการใช้คำค้น "สินเชื่อเงินด่วน" เพิ่มขึ้น 2.5 เท่า

เป็นข้อมูลจากผลสำรวจของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่ชี้ปัญหาโควิด-19 และการปิดประเทศ ทำให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทยปรับสูงขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยสถานภาพหนี้ครัวเรือนไทยในปีนี้ คนไทยเกือบ 100% มีหนี้ครัวเรือน ส่วนใหญ่เป็นหนี้ส่วนบุคคล และบัตรเครดิต ที่นำมาใช้จ่ายในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค และซื้อสินค้าคงทน เช่น ยานพาหนะ และที่อยู่อาศัย

โดยพนักงานเอกชนเป็นหนี้บัตรเครดิตมากถึง 68.1% ส่วนเกษตรกร มีภาระหนี้ จากการกู้เงินมาทำการเกษตรมีสัดส่วนสูงถึง 87.5% ส่งผลให้ยอดหนี้ต่อครัวเรือนในภาพรวม มีมากเฉลี่ย 501,711 บาทต่อครัวเรือน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือขยายตัว 3.7% ส่วนใหญ่เป็นหนี้อยู่ในระบบที่ 78.9% และเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ จะพบว่าสัดส่วนหนี้ครัวเรือนของไทย ยังอยู่ในระดับสูงที่สุดในอาเซียน และสูงเป็นอันดับ 11 ของโลก และมีแนวโน้มว่าภาระหนี้นอกระบบจะกลับมาฟื้นตัวสูงขึ้น มากกว่า 60%

ด้าน ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี พบว่า คนไทยเข้าค้นหาคำว่า "สินเชื่อเงินด่วน" จากอินเทอร์เน็ต สูงขึ้นจากเดิมถึง 2.5เท่า สะท้อนให้ว่า แหล่งเงินกู้ ยังเป็นสิ่งที่ประชาชนเรียกร้อง เพื่อนำมาเสริมสภาพคล่อง การจับจ่ายจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยเริ่มกังวลจะกระทบกับเงินในกระเป๋า

ขณะที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน มีความพยายามลดค่าไฟฟ้าให้กับภาคครัวเรือน ด้วยการปรับค่าผ่านท่อก๊าซธรรมชาติใหม่ ช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้ 5,900 ล้านบาทต่อปี ทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงอย่างน้อย 3 สตางค์ต่อหน่วย ในรอบบิลเดือนสิงหาคมนี้

แต่ถ้าคุณผู้ชมจำได้ เพิ่งจะมีการปรับขึ้นค่าเอฟทีตั้งแต่เดือนกันยายนอีก 68.66 สตางค์ต่อหน่วย รวมเป็น 93.43 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งเมื่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน มีความพยายามลดค่าไฟฟ้าให้ 3 สตางค์ต่อหน่วย เราก็ยังต้องจ่ายค่าเอฟทีเพิ่มอีกกว่า 90 สตางค์ต่อหน่วย

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark