ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

คอลัมน์หมายเลข 7 : ปลัดอำเภอรับส่วยออกใบอนุญาตปืน สะท้อนช่องทางการทุจริต

ข่าวภาคค่ำ - กรณีเจ้าหน้าที่หน่วยงานปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ บุกจับปลัดอำเภอเมืองเชียงใหม่ รับสินบน ออกใบอนุญาตซื้อปืน คาโต๊ะทำงาน ซึ่งเป็นอำนาจเฉพาะตัวของนายอำเภอ ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการดำเนินการเพียงคนเดียวหรือไม่ และกรณีนี้สะท้อนช่องโหว่อะไรบ้าง คุณสุธาทิพย์ ผาสุข มีรายงาน

เหตุการณ์เจ้าหน้าที่ปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ บูรณาการนำกำลังเข้าจับกุมปลัดอำเภอเมืองเชียงใหม่ ถึงโต๊ะทำงาน พร้อมกับของกลาง เป็นธนบัตรเงินสดจำนวน 20,000 บาท และใบอนุญาตซื้ออาวุธปืนจำนวน 2 ฉบับ หลังมีผู้ร้องเรียนว่าปลัดอำเภอเมืองเชียงใหม่ รายนี้ ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ เรียกเก็บเงินการออกใบอนุญาตมีและใช้อาวุธปืน และเครื่องกระสุน แบบ ป.3 เพื่อแลกกับการอำนวยความสะดวกในการออกใบอนุญาต นอกจากจะต้องดำเนินการสอบสวนโดยละเอียดเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงแล้ว เหตุการณ์นี้ยังทำให้เกิดข้อกังขาว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่การกระทำนี้ จะดำเนินการเพียงคนเดียว เนื่องจากตามกฎหมายอำนาจในการเซ็นใบอนุญาตเกี่ยวกับอาวุธปืนในพื้นที่ เป็นอำนาจเฉพาะของนายอำเภอเท่านั้น

เบื้องลึกของปัญหาที่เกิดขึ้น คือสิ่งที่ค้างคาใจ ซึ่งต้องรอการพิสูจน์ แต่ในขณะเดียวกัน กรณีนี้ ก็ได้สะท้อนถึงปัญหาเชิงระบบในสังคมไทย เกี่ยวกับการจัดสรรนโยบายหรือโครงการต่าง ๆ เช่น ปืนสวัสดิการ ซึ่งเกี่ยวพันกับการใช้ความเห็นของเจ้าหน้าที่ และที่ผ่านมา ก็พบว่ามีการบิดเบือนการใช้อำนาจหน้าที่ที่มีไปเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง หรือแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน อันเป็นการทุจริตต่อหน้าที่

ความเห็นนี้สอดคล้องกับรายงานข้อมูลขององค์กรที่จัดทำข้อมูลการซื้อขายและความโปร่งใสในการครอบครองอาวุธปืน ซึ่งรายงานว่าประเทศไทยมีคนครอบครองปืนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน จึงนำมาซึ่งคำถาม ว่าการปล่อยปละให้มีคนครอบครองอาวุธปืนมากขนาดนี้ มีความเหมาะสมแล้วหรือไม่ และมาตรฐานควบคุมการเข้าถึงปืนเพียงพอแล้วหรือยัง เพราะหากพิจารณาจากเหตุอาชญากรรมความรุนแรงที่เกิดขึ้นในระยะหลังนี้ ก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงในสังคมไทย

ประเด็นฉาวที่เกิดขึ้น ทำให้ทาง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มีคำสั่งย้ายปลัดอำเภอคนดังกล่าวออกจากพื้นที่ โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม และตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง แม้ทางปลัดอำเภอเมืองเชียงใหม่ จะให้การภาคเสธ อ้างว่าไม่ได้รับสินบน แต่เป็นสินน้ำใจที่ผู้เสียหายนำมามอบให้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ก็ได้มีการขยายผลสอบสวน ซึ่งต้องติดตามดูว่าจุดจบของเรื่องนี้จะหยุดอยู่เพียงแค่กรณีที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า หรือสาวไปถึงเบื้องลึกของปัญหาเชิงระบบในสังคมไทย

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark