ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

แม่เชื่อลูกเครียด ขับรถพุ่งชนทะลุกำแพงตกห้างฯ จ.นนทบุรี

ข่าวสังคม 29 สิงหาคม 2565 - ห้องข่าวภาคเที่ยง - แม่ของชายอายุ 24 ปี ที่ขับรถยนต์ขึ้นลานจอดรถของศูนย์การค้าย่านบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี และเร่งความเร็วพุ่งตกลงมาจากชั้น 3 ของลานจอดรถ เชื่อว่าแรงจูงใจน่าจะเกิดจากความเครียดที่ตกงาน ขณะที่ บริษัทประกันภัยฯ ปฏิเสธการจ่ายเงิน มองว่าเป็นเจตนาชนให้เกิดความเสียหาย

ย้อนกลับไปดูเหตุการณ์นี้กันก่อน เป็นช่วงเช้าวานนี้ บริเวณลานจอดรถชั้น 3 ของศูนย์การค้า "เดอะ สแควร์" ตำบลบางรักพัฒนา อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์ สีดำ ที่ขับลงมาจากชั้นบนของลานจอดรถ และพุ่งชนกำแพงกันตก ชั้น 3 อย่างแรง ก่อนจะขับถอยขึ้นไปชั้นบนอีกครั้ง ช่วงเวลาห่างกันไม่ถึง 1 นาที รถคันเดิมก็เร่งความเร็วพุ่งชนจุดเดิม คราวนี้ทำให้กำแพงกันตกพังลงมา ความกว้างประมาณ 4 เมตร พร้อมกับตัวรถที่ทะลุตกลงมา สภาพรถพลิกหงายล้อชี้ฟ้า แต่คนขับที่เป็นชายหนุ่ม กลับออกมาจากรถ และเดินเหมือนคนปกติ พูดคุยรู้เรื่อง แต่บ่นเจ็บต้นคอ ทางศูนย์การค้าฯ จึงแจ้งตำรวจ สภ.บางบัวทอง และหน่วยกู้ภัย ให้ตรวจสอบและช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า โดยที่ยังไม่มีใครทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัด

จากคำให้การของพนักงานรักษาความปลอดภัย ระบุว่า ขณะทำหน้าที่อยู่ด้านล่างของศูนย์การค้าฯ ได้ยินเสียงรถขับชนกำแพงบนอาคารลานจอดรถ แต่ไม่ทราบว่าเป็นชั้นไหน จึงรีบขึ้นไปตรวจสอบ พบแค่ร่องรอยกำแพงที่ถูกชนบริเวณชั้น 3 แต่ไม่พบรถ จึงวนหาไล่ตั้งแต่ชั้น 5 ลงมา ก่อนจะได้ยินเสียงรถชนกำแพงอีกครั้ง เมื่อลงมาตรวจสอบที่จุดเดิม คราวนี้เห็นกำแพงพัง ส่วนรถตกไปอยู่ชั้นล่างของลานจอดแล้ว

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ ทราบว่า ตัวแทนศูนย์การค้าฯ ไม่ได้เข้าแจ้งความ เพียงแค่ไปลงบันทึกประจำวันไว้ และติดต่อแม่ของผู้ก่อเหตุ เข้าเจรจาและตกลงค่าเสียหาย ล่าสุด ผู้รับเหมาเข้าไปประเมินราคาค่าซ่อมกำแพงกันตกแล้ว ประมาณ 100,000 บาท โดยให้ทั้ง 2 ฝ่าย เซ็นยินยอมตามข้อตกลง

พันตำรวจโท พันธมิตร จ้างประเสริฐ รองผู้กำกับการ สภ.บางบัวทอง ให้ข้อมูลว่า จนถึงขณะนี้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ยังไม่ได้ทำการสอบปากคำผู้ก่อเหตุ เนื่องจากยังนอนรักษาตัว และรอผลเอกซเรย์อย่างละเอียดอีกครั้ง แพทย์ถึงจะอนุญาตให้เข้าพบได้ ทำให้จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ แต่เนื่องจากเป็นคดีที่ยอมความได้ เมื่อทั้ง 2 ฝ่าย เจรจากันได้ก็ถือว่าจบ

ส่วนภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิด เห็นว่าคนขับมีพฤติกรรมเหมือนเจตนาจงใจนั้น ยังไม่สามารถสรุปได้ชัด คงต้องให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบความเสียหายของรถ เพื่อดูทิศทางและแรงกระแทก ซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะ แต่ที่ชัด ๆ ในตอนนี้ คือ บริษัทประกันภัยฯ ปฏิเสธการจ่ายเงิน เพราะดูจากภาพแล้วเชื่อว่าผู้ก่อเหตุตั้งใจชน

สำหรับแม่ หลังทราบเรื่องก็เข้าไปเยี่ยมอาการของลูกชาย แต่ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยถึงสาเหตุ เชื่อว่าน่าจะมีปัจจัยจาก 2 เรื่อง คือ มีความเครียดจากการที่ยังหางานทำไม่ได้ และลูกชายเพิ่งหัดขับรถได้ไม่นาน จึงอาจจะไม่ชำนาญ

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark