ตร.เตรียมออกหมายจับเพิ่ม ทีมสังหารอดีตผู้สมัคร สส.ระยอง

เช้านี้ที่หมอชิต - วานนี้ (31 ส.ค.) ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาคดีฆ่าอดีตผู้สมัคร สส.ระยอง และเป็นทนายความชื่อดังในพื้นที่ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่การทำแผนฯ เป็นการทำแบบไม่เห็นตัวผู้ต้องหา ก่อนคุมตัวไว้ที่ สภ.บ้านค่าย รอฝากขังเช้านี้ (1 ก.ย.)

ตำรวจกองบังคับการปราบปราม และตำรวจภูธรภาค 2 คุมตัว นายปิติ อายุ 54 ปี ขึ้นรถ เพื่อนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ปั๊มน้ำมัน ในตำบลบ้านค่าย อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง หลังก่อเหตุยิง นายมานพ เสถียรเขตต์ อดีตผู้สมัคร สส.ระยอง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา

ซึ่งจุดที่น่าสังเกต คือ มีผู้ต้องหาเพียงคนเดียวที่ถูกนำตัวออกมา ทั้งที่ นายนิติพนธ์ อายุ 57 ปี ก็ถูกจับมาพร้อม ๆ กัน ซึ่งตำรวจระบุว่า สาเหตุที่ไม่ได้นำตัวนายนิติพนธ์ ไปทำแผน เพราะเจ้าตัวไม่ปริปากบอกอะไรเจ้าหน้าที่ และไม่ให้ความร่วมมือ

ตำรวจคุมตัวนายปิติ มาถึงที่ปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุ ท่ามกลางตำรวจในและนอกเครื่องแบบกว่า 100 นาย ที่ยืนรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา

ขณะที่ญาติของผู้เสียชีวิต ก็มารอในพื้นที่จำนวนมากเช่นกัน ตำรวจจึงให้อยู่ภายในห้องกระจก และห้ามออกมา หากการทำแผนประกอบคำรับสารภาพไม่แล้วเสร็จ

แต่ผู้ต้องหาก็ไม่ยอมลงจากรถ เพราะกลัวว่าตัวเองจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากในพื้นที่เต็มไปด้วยชาวบ้าน และเครือญาติของผู้ตาย ตำรวจจึงให้ผู้ต้องหานั่งในรถ และใช้มือชี้จุดจากในรถตู้ โดยใช้เวลาจุดนี้ไม่ถึง 10 นาที ก็รีบเคลื่อนรถออกไป

ขณะที่ญาติของผู้เสียชีวิต ต่างตะโกนด่าทอสาปแช่ง แสดงความไม่พอใจที่ผู้ต้องหาไม่ยอมลงมาจากรถ และมีการขว้างปาสิ่งของ เพื่อแสดงออกว่าไม่พอใจกับสิ่งที่ผู้ต้องหา และตำรวจทำ

ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาไปจุดทิ้งรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นที่ดินรกร้างริมคลองกระพุน ตำบลหนองละลอก อำเภอบ้านค่าย ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 4 กิโลเมตร

และอีกจุดที่อยู่ใกล้กัน คือ จุดที่ผู้ต้องหามารอขึ้นรถเก๋งที่ทีมงานมาจอดรอรับกลับ ซึ่งตลอดการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ไม่ว่าจะเป็นจุดใด ตำรวจก็ไม่ให้ผู้ต้องหาลงจากรถทุกกรณี

หลังจากเสร็จสิ้นการทำแผนฯ ทั้ง 3 จุด ตำรวจนำตัว นายปิติ ไปควบคุมตัวที่ สภ.บ้านค่าย ก่อนจะนำตัวกลับไปสอบปากคำเพิ่มที่กองบังคับการปราบปราม นอกจากนี้มีรายงานว่า ตำรวจได้รับข้อมูลสำคัญจนสามารถระบุตัวทีมงาน และกลุ่มคนในคดีนี้ได้แล้ว ซึ่งมีอีกอย่างน้อย 3 คน ที่น่าจะเข้าข่ายเป็นผู้ร่วมขบวนการและผู้จ้างวาน โดยอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับ ส่วนปมเหตุตำรวจก็ทราบแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยเวลานี้

ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจเมื่อวานนี้ เพราะตำรวจมีการเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 6 จุด คือ กรุงเทพมหานคร 1 จุด และ 5 จุด ในจังหวัดระยอง โดยยึดปืนได้ 4 กระบอก เครื่องกระสุนปืน รวมถึงวงจรปิด และสมุดบัญชีจากพื้นที่เป้าหมาย และสามารถจับกุม นายกำธร อายุ 39 ปี พร้อมปืน 1 กระบอก กระสุนปืนและโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยกล่าวหาว่ามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ไดรับอนุญาต