สั่งแก้ปัญหาน้ำท่วม ลุ่มเจ้าพระยา

ข่าวภาคค่ำ - น้ำใน "คลองบางบาล" จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนอย่างฉับพลัน จนต้องพาชาวบ้านขนของหนีออกมา เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หลังทางจังหวัดฯ กำชับให้บริหารจัดการน้ำสอดคล้องกับสถานการณ์

สั่งแก้ปัญหาน้ำท่วม ลุ่มเจ้าพระยา
ปริมาณน้ำใน "คลองบางบาล" จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่เอ่อล้นและไหลอ้อมกัดเซาะตลิ่งเข้าท่วมชุมชนวัดโบสถ์ หมู่ 1 ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้าวันนี้ พบสาเหตุเป็นเพราะประตูระบายน้ำ "ปากคลองบางบาล" ถูกยกขึ้นแค่ 20 เซนติเมตร ทำให้ระบายได้น้อย หลังเจ้าหน้าที่ ทยอยปรับระดับยกประตูระบายน้ำขึ้น เป็น 1 เมตร 20 เซนติเมตร ทำให้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ และจากการลงพื้นที่ของทางจังหวัดฯ ได้สั่งการและย้ำให้ชลประทาน บริหารจัดการน้ำสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่ง หรือให้เกิดความเดือดร้อนน้อยที่สุด

เตือนเรือสินค้าลอดใต้สะพานข้ามแม่น้ำ ต้องระวัง จ.อ่างทอง
แม่น้ำเจ้าพระยา ที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน กระทบต่อการเดินเรือ ที่จะต้องลอดใต้สะพาน บริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง เพื่อไปบรรทุกทรายจากท่าขนส่งสินค้า เพราะหากไม่มีความแม่นยำในการดูร่องน้ำ หรือ ควบคุมทิศทางเรือไม่ได้ ก็จะทำให้หลังคาเรือ ที่ขณะนี้แทบจะชิดกับช่องทางลอดใต้สะพาน เกิดอุบัติเหตุ

การแก้ไข คือ ต้องสูบน้ำเข้าเรือเปล่าให้ต่ำลง แล้วสูบออกหลังบรรทุกสินค้า และต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็น 2 เท่า เพราะเรือหนักอาจชนตอม่อสะพาน ส่วนการขนส่งสินค้าในช่วงกลางคืน สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคอยุธยา ประกาศห้ามการเดินเรือแล้ว

ชลประทาน เตือน 11 จังหวัด ลุ่มเจ้าพระยา จ.ชัยนาท
การระบายน้ำของ "เขื่อนเจ้าพระยา" ล่าสุดวันนี้ อยู่ที่ 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีแล้ว ส่งผลให้ท้ายเขื่อนฯ สูงขึ้นอีก 40-50 เซนติเมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 2 เมตร 80 เซนติเมตร ส่วนพื้นที่ติดแนวแม่น้ำเจ้าพระยา ได้นำกระสอบทรายไปปิดปากท่อ ป้องกันน้ำทะลักเข้าท่วมชุมชน

ชลประทานจังหวัดชัยนาท แจ้งเตือนฉบับที่ 6 ให้ 11 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา เตรียมรับสถานการณ์ โดยจะทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำในอัตรา 1,800-2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อีกครั้ง ในวันที่ 4 กันยายน จะทำให้น้ำท้ายเขื่อนฯ สูงขึ้นอีก 50 เซนติเมตร