ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ตีตรงจุด : เปิดโปงทุกปัญหา กล้าพูดความจริง จากคดี ส.ต.ท.หญิงโหด สู่การทลายระบบอุปถัมภ์

เช้านี้ที่หมอชิต - ตีตรงจุดวันนี้ ยังปักหมุดสถานการณ์ร้อน ที่ต้องบอกว่ายิ่งขุด ยิ่งเจอ ยิ่งสาว ยิ่งเห็นความผิดปกติ สำหรับเส้นทางชีวิตของสิบตำรวจโทหญิง ก่อนที่จะเกิดคดีทารุณกรรมทหารหญิงรับใช้ ต้องเรียกว่าชีวิตเกือบจะโรยด้วยดอกกุหลาบ หยิบจับทำอะไรก็ง่ายไปหมด ตั้งแต่เข้าเป็นตำรวจ โดยได้รับการยกเว้นหลักเกณฑ์ ทั้งที่อายุเกิน 35 ปี ฝากคนรับใช้ไปเป็นทหาร แถมโอนย้ายกลับมารับใช้ประจำบ้าน และยังมีประเด็นตัวอยู่ราชบุรี แต่ชื่อไปทำงานอยู่ กอรมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ล่าสุดมีการเปิดเผยข้อมูล ได้รับการเสนอชื่อให้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ในปี 2563 ด้วย เราไปตีตรงจุด ตามดูระบบอุปถัมภ์จากกรณีนี้กัน

ย้อนดูเส้นทางการรับราชการตำรวจของสิบตำรวจโทหญิงรายนี้กันก่อนอีกครั้ง เริ่มจากปี 2560 เข้ารับราชการตำรวจ สังกัดสำนักงบประมาณและการเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยได้รับการยกเว้นอายุเกินเกณฑ์ 35 ปี จากนั้นในปี 2564 ย้ายไปสังกัดกองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 ก่อนจะไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า โดยที่ตัวอยู่ราชบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุฉาว ทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ก็ส่งตัวคืนกลับต้นสังกัดที่สันติบาล ล่าสุดต้นสังกัดเพิ่งมีคำสั่งไล่ออกจากราชการไว้ก่อน

ล่าสุด นายวีระ สมความคิด ยังออกมาเปิดเผยเอกสารที่ สิบตำรวจโทหญิง ได้รับการเสนอชื่อให้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ในปี 2563 หลังเข้ารับราชการตำรวจเพียงแค่ 2 ปีกว่า โดยระบุว่าต้องเส้นใหญ่มากจริง ๆ จึงจะทำเช่นนี้ได้ โดยสิบตำรวจโทหญิง ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นที่ 5 เบญจมาภรณ์ช้างเผือก ในกลุ่มที่ปรึกษา ผู้ชำนาญการ นักวิชาการ และเลขานุการประจำคณะกรรมาธิการสามัญประจำวุฒิสภา

สำหรับสิบตำรวจโทหญิงรายนี้ ได้รับแต่งตั้งให้ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ประจำกรรมาธิการถึง 2 คณะ คือ คณะกรรมาธิการกฎหมาย สนช. และกรรมาธิการ ป.ป.ช.วุฒิสภา ซึ่งกรรมาธิการทั้ง 2 คณะ มีพลเรือเอก ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน และมีนายธานี อ่อนละเอียด นั่งเป็นกรรมาธิการด้วย

ไม่เพียงเท่านี้ยังมีปริศนาที่เป็นเรื่องคาใจผู้คนในสังคม คือ ใครฝากทหารรับใช้หญิง ให้เข้ารับราชการทหาร และใครโอนย้ายให้กลับมารับใช้สิบตำรวจโทหญิง

ซึ่งเรื่องนี้ นายวีระ ได้นำเอกสารที่พลเรือเอกศิษฐวัชร ในฐานะคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.วุฒิสภา ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2563 ทำถึงผู้บัญชาการทหารสูงสุด ขออนุมัติสิบตรีหญิงมาช่วยราชการในกรรมาธิการฯ จนกว่าจะสิ้นภารกิจ แต่ทำไมภารกิจของสิบตรีหญิง กลับไปอยู่ที่การรับใช้อยู่ที่บ้านสิบตำรวจโทหญิง และจบที่การถูกทารุณกรรม จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาวถึงปัจจุบัน เป็นเรื่องที่ต้องเร่งทำความจริงให้กระจ่าง โดยจะมีการส่งข้อมูลทั้งหมดนี้ไปให้ ป.ป.ช.ด้วย

ส่วนคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเตรียมเชิญบุคคล 3 คน มาชี้แจงเกี่ยวกับข้อข้องใจ เรื่องกระบวนการอุปถัมภ์ว่ามีการสยายปีกจากรัฐสภา ไปยังแวดวงตำรวจและกองทัพหรือไม่ อย่างไร ก็เตรียมตั้งคำถามเกี่ยวกับเอกสารใหม่ที่ปรากฏต่อสาธารณะในขณะนี้ด้วย โดยจะประชุมนัดแรก วันที่ 8 กันยายนนี้

เมื่อเรื่องดูจะพัวพันไปถึงน้องชายทั้ง 2 คนของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ก็เลยถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย โดยเจ้าตัวกล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า เป็นเรื่องของกรรมาธิการ ป.ป.ช. ให้ว่ากันไปตามกระบวนการ ดำเนินการได้เต็มที่ ไม่มีปัญหา

ขณะที่ 09.00 น.วันนี้ คณะกรรมการจริยธรรม วุฒิสภา จะมีการประชุมด่วน เพื่อพิจารณาคำร้องของ นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ขอให้เริ่มนับหนึ่งสอบที่นายธานี หลังปรากฏชื่อบนป้ายบริจาคเงินแผ่นเดียวกับสิบตำรวจโทหญิง

รวมถึงจะนำเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงของนายธานี ที่ชี้แจงถึงสถานะว่า โสด เนื่องจากหย่าร้างมาเกือบ 30 ปีแล้ว และยอมรับว่าเคยสนิทสนมกับสิบตำรวจโทหญิงจริง แต่ในปัจจุบันสิบตำรวจโทหญิงได้คบหากับชายที่ปรากฏเป็นข่าวแล้ว รวมทั้งยืนยันไม่เคยใช้ตำแหน่งหน้าที่ในทางที่มิชอบ พร้อมรับทุกการตรวจสอบ มาประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการจริยธรรมด้วย

ขณะที่การตรวจสอบข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ของสิบตำรวจโทหญิงก็มีผลสรุปออกมาแล้ว โดยพันเอกวินธัย สุวารี โฆษก กอ.รมน. เปิดเผยว่า สิบตำรวจโทหญิงมาช่วยราชการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมปีที่แล้ว โดยเจ้าตัวทำเรื่องสมัครมาช่วยราชการ และได้รับการอนุมัติ บรรจุดตามขั้นตอน โดยได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ประสานการปฏิบัติด้านธุรการระดับเจ้าหน้าที่ และอำนวยความสะดวกให้กับผู้แทนหน่วยในการปฏิบัติงานนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกี่ยวกับ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า

แต่หลังจากที่เกิดเรื่องอื้อฉาว สิบตำรวจโทหญิงถูกแจ้งข้อกล่าวหา คณะกรรมการสอบสวน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จึงมีความเห็นว่าปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นไปตามความสามารถ ไม่มีผลงานตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายเป็นที่ประจักษ์ จึงยกเลิกการปฏิบัติหน้าที่ ในหน่วยสำนักอำนวยการข่าวกรอง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ก็คือวันที่รับเข้ามานั่นแหละ จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคมปีนี้ พร้อมกับเรียกคืนเงินค่าตอบแทนพิเศษที่เบิกจ่ายไปทั้งหมดด้วย

ซึ่ง "กัน จอมพลัง" โพสต์เฟซบุ๊กล่าสุดว่า สิบตำรวจโทหญิงหญิง ถูก กอ.รมน. เรียกเงินคืนย้อนหลัง เป็นเงินราว 110,000 บาท ซึ่งเป็นเบี้ยเสี่ยงภัยที่สิบตำรวจโทหญิงได้ตลอด 1 ปี

ชี้แจงมาแบบนี้เชื่อว่าคงยังเกิดคำถามในสังคมอีกมาก เพราะตอนแรกตำรวจบอกว่า ได้รับราชการตำรวจ เพราะขาดแคลนคนทำงานด้านบัญชี แต่อยู่ ๆ กลับส่งตัวไปสันติบาล และยังเลือกที่จะไปช่วยราชการ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ตามอำเภอใจ และได้รับการบรรจุด้วย ซึ่งหากไม่เกิดกรณีทารุณกรรมทหารรับใช้หญิงขึ้นมา มีคำถามอีกว่า ชีวิตของสิบตำรวจโทหญิง อาจจะยังได้รับราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า โดยที่ตัวอยู่ราชบุรีเหมือนเดิมใช่หรือไม่

ที่สำคัญคือ ในประเด็นที่ชื่ออยู่ แต่ตัวไม่ได้ไปทำงาน ซึ่งเป็นหัวใจของเรื่องนี้ กลับไม่มีคำชี้แจงในเรื่องที่สังคมยังเคลือบแคลงสงสัย และอีกประเด็นหนึ่งที่ยังไม่เคยมีคำอธิบายจากกองทัพ คือ ทหารรับใช้หญิง ไปรับใช้สิบตำรวจโทหญิงได้อย่างไร

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark