ปปง.ยึดทรัพย์ค้ามนุษย์กว่า 200 ล้านบาท โยกไปช่วยเหยื่อ

เช้านี้ที่หมอชิต - ปปง. ยันจากนี้ไปเงินที่ได้จากการยึดทรัพย์แก๊งค้ามนุษย์ จะโดนโยกไปช่วยเหลือเหยื่อก่อน ถ้าเหลือถึงส่งคืนแผ่นดิน ชี้ที่ผ่านมายึดได้กว่า 200 ล้านบาท ขณะที่ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผย คนร้ายเปลี่ยนวิธีโอนเงินเข้าสกุลดิจิทัล เพื่อเลี่ยงตามรอยเส้นทางเงินยึดทรัพย์

หลังจากตำรวจจับกุมขบวนการขนโรฮีนจา ได้ที่พื้นที่จังหวัดชุมพร และขยายผลจนจับกุม นายอารี ลาลู พร้อมพวกอีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ 3 ราย ซึ่งเป็นตำรวจตระเวนชายแดน ก็มีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่ามีความเชื่อมโยง ทั้งคนไทย และคนเมียนมา ซึ่งขณะนี้พบว่ามีคนไทยหลบหนีการจับกุมที่ประเทศเมียนมา เหลือเพียงคนเดียว โดยขบวนการนี้มีเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 1,600 ล้านบาท

นางชลธิชา ดาวเรือง ผู้อำนวยการกองคดี 3 ปปง. บอกว่า ที่ผ่านมา ปปง. ยึดอายัดทรัพย์ไปแล้วเกือบ 200 ล้านบาท รวมทั้งพ็อตทองคำที่ผู้ต้องหานำไปลงทุนจำนวนกว่า 40 ล้านบาท ซึ่งจากนี้เงินส่วนนี้จะเอาไปช่วยเหลือเหยื่อ เหลือจะส่งกลับคืนแผ่นดิน

ขณะที่ พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า เส้นทางการเสนอยึดทรัพย์ผู้ต้องหาจากนี้จะยุ่งยากขึ้น เพราะคนร้ายนำไปซื้อพ็อตลงทุน หรือ บิตคอยน์ ซึ่งตรวจสอบได้ยาก เหมือนคดียาเสพติดและการหลอกลงทุน จึงขอเตือนประชาชนอย่าได้รีบโอนเงิน ให้ตรวจสอบรายละเอียดให้ดีก่อน โดยล่าสุดพบว่าคดีที่ถูกแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ พุ่งจากเดิมเท่าตัวเป็น 8,000 กว่าคดีแล้ว

ส่วน นายหม่อง ถ่าน ทุน และ ภรรยา ผู้ต้องหาตามหมายจับค้ามนุษย์ ที่เกี่ยวข้องกับคดี พลโท มนัส คงแป้น ซึ่งหลบหนีหมายจับไปอยู่มาเลเซีย และถูกจับกุมได้ย่านพระราม 9 หลังใช้พาสปอร์ตเดินทางเข้ามาในประเทศเพื่อพักผ่อน ได้ถูกควบคุมตัวไปฝากขัง และศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว เพราะเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง