ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

จับคนดูแลผู้ป่วย ขโมยเงินผู้เสียชีวิต กว่า 15 ล้านบาท จ.พิษณุโลก

เช้านี้ที่หมอชิต - ข่าวนี้ต้องบอกว่าเหลือเกินจริง ๆ มีหญิงสาวรายหนึ่ง รับจ้างดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายจนเสียชีวิต สุดท้ายก่อเหตุยักยอกเงินในบัญชีธนาคารคนตายไปกว่า 15 ล้านบาท แต่เจ้าตัวยังให้การภาคเสธ อ้างคนตายยกให้โดยเสน่หา

เรื่องนี้ เจ้าทุกข์ คือ นายปฏิวัติ ไทยสม ผู้เสียหาย ได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้กับสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ให้ดำเนินคดีกับ นางสาวสิตางค์ ทองรำพรรณ ว่าได้ลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือของบิดาที่เสียชีวิต เมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีการใช้เข้าถึงข้อมูลและทำธุรกรรมทางการเงิน ผ่านแอปพลิเคชันโอนเงินจากบัญชีธนาคารของผู้เสียชีวิตโดยทุจริต รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 15,790,000 บาท ล่าสุด ผู้ต้องหาถูกจับกุมได้แล้ว พร้อมของกลาง มีทั้งเงินสดจำนวน 2,329,000 บาท ทองคำแท่ง 10 บาท จำนวน 1 แท่ง มูลค่า 299,500 บาท รถยนต์ของผู้เสียชีวิต โทรศัพท์ 6 เครื่อง สมุดบัญชีเงินฝาก 6 เล่ม สำเนาเอกสารและทรัพย์สินอื่น ๆ อีกจำนวนหลายรายการ เรียกง่าย ๆ กวาดไปเกลี้ยงเลย

แต่ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้ เพราะนอกจากทรัพย์สินเหล่านี้แล้ว ยังมีการขยายผลจนรู้ที่ซ่อนของเงินส่วนที่เหลือ และสามารถติดตามเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท ที่ซุกซ่อนอยู่ในช่องเก็บยางอะไหล่หลังรถยนต์เก๋งคันหนึ่งที่จอดอยู่ในบ้าน ย่านถนนประชาอุทิศ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก ได้ด้วย ผลงานดีอย่างนี้ ตัวแทนผู้เสียหายก็เลยมอบช่อดอกไม้ให้เป็นการขอบคุณด้วย

สำหรับผู้ต้องหารายนี้ ถูกตั้งข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร และเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ซึ่งเจ้าตัวยังให้การภาคเสธ อ้างผู้เสียชีวิตให้ทรัพย์สินโดยเสน่หา

สำหรับพฤติกรรมกระทำผิดของผู้ต้องหา ได้เข้าไปดูแลผู้ป่วยที่รักษาโรคมะเร็งกระเพาะอาหารอยู่ที่ศูนย์ดูแลผู้ป่วย อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก จนกระทั่งเสียชีวิต ใช้โทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิต โดยทราบรหัสผ่าน เข้าแอปพลิเคชันของธนาคารกรุงไทย โอนเงินจากบัญชีธนาคารกรุงไทยของผู้เสียหาย เข้ามาบัญชีธนาคารทหารไทยธนชาตของตัวเอง ตั้งแต่วันที่ 9-16 สิงหาคม จำนวน 17 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 15,790,000 บาท และได้นำเงินจำนวนหนึ่งซื้อทองคำแท่ง และเงินสดส่วนที่เหลือนำมาซุกช่อนภายในบ้านและรถยนต์ ก่อนที่จะถูกจับกุม ซึ่งผู้ต้องหายังมีการจ่ายเงินว่าจ้างทนายความ กรณีที่ถูกดำเนินคดีเป็นเงิน 1 ล้านบาท ด้วย

ที่ยังเป็นปริศนาอยู่ คือ ผู้ต้องหาไปล่วงรู้รหัสได้อย่างไร เรื่องนี้ก็ต้องเตือนภัยไปถึงครอบครัวที่มีผู้ป่วยต้องระมัดระวัง กลั่นกรองคนที่จะมาดูแลผู้ป่วยให้ดีด้วย เพราะหากถูกยักยอกทรัพย์ไป อาจไม่โชคดีเหมือนผู้เสียหายรายนี้ ที่ตำรวจติดตามทรัพย์สินคืนกลับมาได้เกือบครบ

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark