พล.อ.ประวิตร สั่งจัดทำแผนรับมืออุทกภัยทั่วประเทศ

ข่าวภาคค่ำ - รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ห่วงสถานการณ์น้ำ สั่งทุกหน่วยงานทำแผนเผชิญเหตุ รับมือป้องกันอุทกภัยทั่วประเทศ

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการโครงการระบบส่งน้ำ จังหวัดกระบี่ โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำ จัดทำแผนเผชิญเหตุล่วงหน้าเพื่อรับมือหากเกิดเหตุอุทกภัยทั่วประเทศ โดยเฉพาะภาคใต้ รวมถึง เน้นย้ำให้ปฎิบัติตาม 13 มาตรการ รับมือฤดูฝนอย่างเคร่งครัด เนื่องจากเป็นห่วงสถานการณ์น้ำในหลายพื้นที่จะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน

ขณะที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ หรือ กอนช. ยังคงแจ้งเตือน พื้นที่่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขื่อน และอ่างเก็บน้ำ ยังเสี่ยงและต้องเฝ้าระวัง ต่อไปจนถึงวันที่ 10 กันยายน 2565 จากปริมาณน้ำที่จะเพิ่มขึ้น และบางแห่งสูงเกินเกณฑ์ควบคุม เสี่ยงต่อน้ำล้น กระทบพื้นที่ท้ายน้ำทั่วประเทศ

โดยล่าสุด กอนช. ประเมินว่าทั่วไทยจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นและตกหนักมากบางพื้นที่ จากร่องมรสุมที่พาดผ่าน และมรสุมประจำฤดู มีกำลังแรงขึ้น กอนช. จึงเตรียมเสนอ พลเอก ประวิตร ในฐานะผู้อำนวยการ กอนช. จัดตั้งศูนย์ส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง เพื่อรับมือ โดยเฉพาะฝนที่จะตกหนักในบริเวณลุ่มน้ำชี ลุ่มน้ำมูล และจุดท้ายน้ำของลุ่มน้ำชีและมูล ด้านจังหวัดอุบลราชธานี เสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมจากการระบายน้ำไม่ทัน

ซึ่งปัจจุบันพื้นที่สองฝั่งถูกน้ำไหลท่วม 8 อำเภอ ต้องอพยพชาวบ้านไปอาศัยตามศูนย์พักพิงชั่วคราว ตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่เร่งการเดินเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ พร่องน้ำที่ไหลท่วมชุมชนลุ่มต่ำลงแม่น้ำ วันละกว่า 120,000 ลูกบาศก์เมตร และติดตั้งเครื่องสูบน้ำ อีก 1 ชุด บริเวณริมแม่น้ำมูล เพื่อรับมือกับฝนตกหนักอีกครั้งในสัปดาห์นี้

ขณะที่ แม่น้ำเจ้าพระยา วันนี้ลดระดับลงประมาณ 20 เซนติเมตร หลังจากที่เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ระบายน้ำท้ายเขื่อนฯ ลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 อยู่ที่ 1,537 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ เริ่มเข้า-ออกได้สะดวกขึ้น แม้จะยังมีน้ำท่วมขังอยู่ก็ตาม