ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

จับตา ปรับ ครม.หลังเก้าอี้ รมต.ว่าง 3 ตำแหน่ง บิ๊กป้อม ไม่ปรับเอง ขอให้รอ นายกฯ ตัวจริง

เช้านี้ที่หมอชิต - กระแสปรับ ครม. กลับมาอีกรอบ หลัง นายนิพนธ์ บุญญามณี ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งทำให้เก้าอี้รัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ว่างลง 3 ที่นั่งแล้ว แต่ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ยังไม่ปรับ ครม. ขอให้รอนายกฯ ตัวจริงมาดำเนินการแทน

การลาออกของ นายนิพนธ์ บุญญามณี ส่งผลให้มีตำแหน่งรัฐมนตรีว่างแล้ว 3 ตำแหน่ง คือ ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเดิมเป็นของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า, ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ของ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ที่ถูกปรับปราบพยศไปก่อนหน้านี้ และล่าสุดตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จนทำให้ถูกจับตาว่า นี่จะเป็นช่องทางที่ทำให้เกิดการปรับ ครม. ภายใต้อำนาจของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะนอกจากเก้าอี้จะว่างลง 3 ที่นั่งแล้ว ยังมีอีกตำแหน่งที่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ คือ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังศาลฎีกามีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จากปมถูก ป.ป.ช. ส่งฟ้องขัดจริยธรรมร้ายแรง กรณีรุกที่ป่าเขาใหญ่

หากพิจารณาตามอำนาจของผู้ทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ไม่มีกติกาห้ามปรับ ครม. หรือยุบสภา อีกทั้งยังแก้ไขคำสั่งนายกรัฐมนตรี ให้อำนาจเต็มกับผู้ทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แต่ก็มีความชัดเจนจาก พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ แล้วว่า การปรับ ครม. ต้องรอให้นายกฯ ตัวจริงมาดำเนินการ

ส่วนการสู้คดีของ นายนิพนธ์ ซึ่งเดินทางไปรายงานตัวต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตามที่ ป.ป.ช. ได้ยื่นฟ้องต่อศาล ในคดีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ชำระเงินค่ารถอเนกประสงค์กว่า 52 ล้านบาท ขณะดำรงตำแหน่งนายก อบจ. สงขลา ก็ระบุมีความพร้อมเต็มที่ที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาล โดยได้รับการประกันตัวไปด้วยหลักทรัพย์ 100,000 บาท โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ นัดพิจารณาอีกครั้ง 20 ตุลาคม

โดยประเด็นที่ทีมทนายความ นำโดย นายวสันต์ สร้อยพิสุทธ์ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญวางไว้สู้คดี คือ บริษัทเอกชนมีการฮั้วประมูลในโครงการนี้ ทำให้สัญญาเป็นโมฆะ นายก อบจ.สงขลา ในขณะนั้น จึงไม่สามารถชำระเงินค่ารถได้

การลาออกจากตำแหน่งของ นายนิพนธ์ นอกจากจบปัญหา ไม่ต้องรอลุ้นว่าศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง จะมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่แล้ว ยังส่งผลต่อคำร้องที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย ว่าจะต้องพ้นจากตำแหน่งหรือไม่ ในวันที่ 14 กันยายนนี้ด้วย เพราะถือว่าเจ้าตัวได้ลาออกไปแล้ว แต่ที่กำลังจะเริ่มต้นใหม่ คือ ใครในพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะได้เป็นรัฐมนตรีแทนนายนิพนธ์ และพรรคประชาธิปัตย์จะยังได้สิทธิครอบครองเก้าอี้ตัวเดิมหรือไม่ ซึ่งจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีความเคลื่อนไหวจากพรรคประชาธิปัตย์ เกี่ยวกับการสรรหารัฐมนตรีคนใหม่มาทดแทน นายนิพนธ์

ส่วนการปรับ ครม. ก็อย่างที่เรารายงานไปว่า พลเอก ประวิตร ขอให้รอผลคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ หาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหยุดปฏิบัติหน้าที่ พ้นพงหนามได้ไปต่อ ก็จะเป็นผู้ปรับ ครม. เอง

ขณะที่ ความคืบหน้าเกี่ยวกับการพิจารณาคำร้อง 8 ปี วาระนายกรัฐมนตรีนั้น ล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญได้เรียกประชุมนัดพิเศษในวันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายนนี้ เพื่อพิจารณาคดี "8 ปี นายกฯ" ของ พลเอก ประยุทธ์ มีรายงานว่า นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งว่า ได้รับคำชี้แจงของพยาน 3 ปาก คดี 8 ปี นายกฯ เรียบร้อยแล้ว คือ คำชี้แจงของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขานุการคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ จึงนัดประชุมพิเศษวันดังกล่าวขึ้น เพื่อที่จะอภิปรายคำชี้แจง และหลักฐานต่าง ๆ ว่า สิ้นข้อสงสัยเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้แล้วหรือยัง หากยังไม่สิ้นข้อสงสัย ต้องแสวงหาหลักฐานและพยานเพิ่มเติมต่อไปหรือไม่ ทั้งนี้ หากสิ้นข้อสงสัย ก็จะนัดวินิจฉัย

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ทีมกฎหมายของ พลเอก ประยุทธ์ ส่งคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญ และศาลได้รับเอกสารดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว เป็นเอกสารที่มีเนื้อหาสาระเหตุผลประกอบคำร้องรวมกว่า 30 แผ่น เนื้อหาที่ยื่นชี้แจงไปนั้นระบุว่า การนับวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ไม่ควรนับตั้งแต่ปี 57

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark