ข่าวในหมวด ประเด็นร้อนออนไลน์

แลกสิทธิ “คนละครึ่ง” เป็นเงินสด มีความผิดฐานฉ้อโกง โทษสูงสุดจำคุก 3 ปี ปรับ 6 หมื่นบาท


 
รัฐบาลจับตาทุจริต "คนละครึ่งเฟส5" หลังพบกลุ่มบุคคลโฆษณาเชิญชวนแลกสิทธิเป็นเงินสด พร้อมหักหัวคิว เตือนประชาชน-ร้านค้าอย่าหลงเชื่อ ระวังได้ไม่คุ้มเสีย มีความผิดฐานฉ้อโกง โทษหนัก ติดคุก3 ปี ปรับ 6 หมื่นบาท

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เผย ตามที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2565 ที่ผ่านมาพบว่าระหว่างวันที่ 1 -4 กันยายน มีผู้ใช้สิทธิสะสม 14.24 ล้านคน มียอดใช้จ่ายสะสม 5,885.1 ล้านบาท ทั้งนี้รัฐบาลได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ไม่ให้เกิดการทำธุรกรรมและพฤติกรรมที่ผิดปกติ หรือมีการใช้จ่ายที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการ เพื่อป้องกันปัญหาการทุจริต ให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม

แม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตรวจสอบและดำเนินคดีอย่างจริงจัง แต่ยังพบว่ามีกลุ่มบุคคลที่ใช้วิธีการเดิมๆ คือการแลกสิทธิจากโครงการคนละครึ่งเป็นเงินสด โดยพบว่ามีรายงานการโฆษณาในช่องทางทวิตเตอร์ ช่องทางกลุ่มเฟซบุ๊ค เชิญชวนให้ผู้สนใจนำสิทธิมาแลกรับเป็นเงินสด โดยจะมีการหักค่าหัวคิว ในอัตรา 20 – 40 บาท จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนและร้านค้าอย่าแลกสิทธิเด็ดขาด เพราะระบบตรวจสอบย้อนหลังได้ทั้งหมด และที่สำคัญการแลกวงเงินสิทธิเป็นเงินสด ถือเป็นการกระทำที่ทุจริตผิดกฎหมาย  เข้าข่ายความผิดฐาน “ฉ้อโกง”  เพราะมีเจตนาหลอกลวงผู้อื่น ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งโดยทุจริต ทำให้ได้ประโยชน์ทางทรัพย์สินไปจากผู้ถูกหลอกคือรัฐ มีโทษจำคุกถึง 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 341

BUGABOONEWS
ขอบคุณข้อมูลจาก : thaigov

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark