นิด้าโพล ชี้ ประชาชนส่วนใหญ่ ไม่ปลื้มบิ๊กป้อม รักษาราชการแทนนายกฯ ไม่เหมาะสม แต่หนุนยุบสภา

เช้านี้ที่หมอชิต - ข่าวนี้ต้องบอกว่าถ้า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มาเห็นคงจะไม่ปลื้ม เพราะมีผลสำรวจของนิด้าโพล ระบุ ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าไม่มีความเหมาะสมที่จะทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี

เป็นผลการสำรวจเรื่อง "รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี" ซึ่งทำการสำรวจระหว่างวันที่ 5-7 กันยายน 2565 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,312 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการทำงานของรองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 46.34 ระบุว่า ไม่เหมาะสมเลย รองลงมา ร้อยละ 21.57 ระบุว่า เหมาะสมอย่างยิ่ง, ร้อยละ 16.00 ระบุว่า ค่อนข้างเหมาะสม, ร้อยละ 12.58 ระบุว่า ไม่ค่อยเหมาะสม และ ร้อยละ 3.51 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี พลเอก ประวิตร จะยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 63.80 ระบุว่า เหมาะสมอย่างยิ่ง รองลงมา ร้อยละ 16.54 ระบุว่า ค่อนข้างเหมาะสม, ร้อยละ 13.95 ระบุว่า ไม่เหมาะสมเลย, ร้อยละ 4.80 ระบุว่า ไม่ค่อยเหมาะสม และ ร้อยละ 0.91 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ ไม่สนใจ

และเมื่อถามถึงความพอใจของประชาชนต่อการทำงานของ พลเอก ประวิตร ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 41.46 ระบุว่า ไม่พอใจเลย รองลงมา ร้อยละ 22.87 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ, ร้อยละ 22.26 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ, ร้อยละ 8.46 ระบุว่า พอใจอย่างยิ่ง และร้อยละ 4.95 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

เรามาดูกันหน่อยว่านับตั้งแต่ พลเอก ประวิตร ทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มาตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม จนถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 20 วันแล้ว ท่านปฏิบัติภารกิจอะไรบ้าง งานแรกที่ท่านทำคือ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติครั้งที่ 1/2565

จากนั้นก็มีการลงพื้นที่แบบรัว ๆ ที่เป็นข่าวเป็นคราวเยอะหน่อย ก็มีหลายห้วงเวลาด้วยกัน อาทิ ตอนลงพื้นที่ จังหวัดฉะเชิงเทรา มีสาวใหญ่ท่านหนึ่งบุกเข้าไปหอมแก้ม ท่ามกลางเสียงเชียร์ของแฟนคลับ ตะโกนอยากให้อายุยืนถึง 150 ปี 

ส่วนคำพูดที่ถูกนำมาแชร์กันมาก ๆ ก็คือ คำคมที่ท่านพูดว่า "ใช้ใจบันดาลแรง" หลังถูกสื่อมวลชนถามทำไมดูกระชุ่มกระชวย และอีกหนึ่งคำพูดก็คงหนีไม่พ้น คำประกาศว่า น้ำจะไม่ท่วมเหมือนปี 2554 

บทบาทของ พลเอก ประวิตร ในการแก้ปัญหาน้ำท่วมก็ยังเรียกเสียงฮือฮาจากคอการเมืองด้วย หลังจากเจ้าตัวยกหูโทรศัพท์สายตรงถึง ผู้ว่าฯ ชัชชาติ แสดงเจตจำนง พร้อมส่งทหารไปช่วยเก็บผักตบชวา เปิดทางระบายน้ำ โดยตลอดเดือนกันยายนนี้ มีนัดลงพื้นที่ต่างจังหวัดทุกวันจันทร์ ซึ่งวันนี้ท่านก็ไปที่จังหวัดตาก 19 กันยายน ลงใต้ไปนราธิวาส

ส่วนจันทร์สุดท้ายของเดือน คือ วันที่ 26 กันยายน ยังไม่มีกำหนดการว่าจะลงพื้นที่จังหวัดใด ซึ่งอาจเป็นเพราะอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวที่ศาลรัฐธรรมนูญอาจมีคำวินิจฉัยอย่างใดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับปมวาระ 8 ปี นายกรัฐมนตรี ออกมาในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนนี้

หลังจากที่มีการพิจารณาคำชี้แจงของทั้ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายมีชัย ฤชุพันธุ์ และ นายปกรณ์ นิลประพันธุ์ อดีตประธานและเลขานุการคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้นไปตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน พร้อมกับเรียกเอกสารทั้งบันทึกและรายงานการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ 501 มาประกอบการพิจารณา ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคำร้องอีกครั้ง ในวันที่ 15 กันยายนนี้ หากข้อมูลเพียงพอ ก็มีความเป็นไปได้ที่ศาลฯ จะนัดอ่านคำวินิจฉัย ซึ่งโดยปกติแล้วก็จะทิ้งระยะจากการพิจารณานัดสุดท้ายประมาณ 15 วัน

ขณะเดียวกันก็มีการฟันธงมาจาก นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรว่า ไม่ว่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาอย่างไร เชื่อว่าจะมีการยุบสภาหลังการประชุมเอเปก

ด้าน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทำหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ตรวจสอบคำชี้แจงของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ที่ให้นับวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ ไม่ตรงกับบันทึกการประชุมฯ ครั้งที่ 500 ที่ให้นับตั้งแต่ก่อนรัฐธรรมนูญบังคับใช้ อีกทั้งยังระบุว่า บันทึกการประชุมครั้งที่ 500 ไม่ได้รับการรับรอง ทั้งที่มีการรับรองในการประชุมครั้งที่ 501 โดยเห็นว่าเป็นการเบิกความเท็จ