ปิดฉากคดีทุจริตแบงก์บีบีซี จำคุก ราเกซ สักเสนา 335 ปี

เช้านี้ที่หมอชิต - ปิดฉากไปแล้วเมื่อวานนี้ สำหรับคดีทุจริตปล่อยกู้แบงก์บีบีซี โดยไม่มีหลักประกัน หลังศาลฎีกาพิพากษายืน จำคุก นายราเกซ สักเสนา 335 ปี แต่โทษจำคุกได้สูงสุดจริง 20 ปี ให้ชดใช้ 2,500 ล้านบาท

คดีนี้ มีทั้งหมด 3 สำนวน พฤติกรรมกระทำผิดของ นายราเกซ เกิดขึ้นขณะเป็นที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชยการ จำกัด (มหาชน) หรือ แบงก์บีบีซี ร่วมกับ นายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่แบงก์บีบีซี ทุจริตใช้บัตรอนุมัติสินเชื่อเกินบัญชีกว่า 30 ล้านบาท ให้กับบริษัทเอกชนร่วม 10 แห่ง ทำให้ธนาคารฯ ได้รับความเสียหาย ศาลฎีกาจึงพิพากษาลงโทษตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ ในหลายมาตรา รวมความผิด 67 กระทง จำคุก 335 ปี ปรับ 33.5 ล้านบาท แต่โทษจำคุก จะจำคุกได้จริงเพียงแค่ 20 ปี เท่านั้น นอกจากนี้ ยังให้ นายราเกซ ชดใช้เป็นเงิน 2,500 ล้านบาท ด้วย ซึ่งเป็นคำพิพากษาที่เหมือนทั้งศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา

สำหรับคดีนี้กินเวลายาวนานกว่า 27 ปี หลังเกิดการทุจริตในแบงก์บีบีซี จนธนาคารแห่งนี้ต้องยุติการประกอบธุรกิจไปเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2541 โดยผู้ที่ออกมาเปิดโปงปัญหาทุจริตที่เกิดขึ้น คือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต สส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลบรรหาร ในปี 2539

เรื่องราวการทุจริตพัวพันถึงนักการเมือง กลุ่ม 16 ที่เป็นการรวมตัวกันระหว่าง สส. 2 พรรค คือ พรรคชาติไทย และ พรรคชาติพัฒนา 21 คน มี นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นหัวหน้ากลุ่ม สมาชิกก็ไม่ธรรมดา วันนี้เติบโตมีตำแหน่งกันทั้งนั้น อาทิ นายสุชาติ ตันเจริญ, นายเนวิน ชิดชอบ และ นายสนธยา คุณปลื้ม

ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนั้น นายสุเทพ ได้ชี้ให้เห็นถึงการปั่นราคาหุ้นจาก 3-4 บาท พุ่งไปเป็น 16 บาท และยังมีการปล่อยกู้ที่มีความเสี่ยงสูงให้กับคนของกลุ่ม 16 ใช้ในการเทกโอเวอร์บริษัทในตลาดหลักทรัพย์มากกว่า 20 ครั้ง เป็นวงเงินสูงกว่า 36,000 ล้านบาท โดยมี นายราเกซ ซึ่งได้รับฉายาว่าเป็น พ่อมดการเงิน ชักใยอยู่เบื้องหลัง สุดท้ายก็ก่อให้เกิดหนี้เน่ามหาศาลให้กับธนาคารแห่งนี้ จนนำไปสู่ความล่มสลายของธนาคารฯ ในที่สุด

แม้ สส. กลุ่ม 16 จะยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่เคยมีคดีติดตัวจากเหตุทุจริตนี้ แต่ทุกครั้งที่มีการพูดถึงความฟอนเฟะในแบงก์บีบีซี ก็กลายเป็นบาดแผลทางการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

และกว่าจะได้ตัว นายราเกซ มาดำเนินคดีก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเจ้าตัวหนีคดีไปอยู่ประเทศแคนาดา หลังถูกตั้งข้อหาในไทยเมื่อปี 2539 จากคดียักยอกเงินราว 2,520 ล้านบาท จากแบงก์บีบีซี ต้องใช้เวลานานถึง 13 ปี กว่าจะติดตามตัว นายราเกซ กลับมาดำเนินคดีได้ในปี 2552 และล่าสุดเมื่อวานนี้ศาลฎีกาก็มีคำพิพากษาปิดฉากคดีพ่อมดการเงินรายนี้ไปเรียบร้อยแล้ว