ชาวนาแฉ หมู่บ้านขนาดใหญ่ในพื้นที่ ปล่อยน้ำเสียจนข้าวยืนต้นตาย

เช้านี้ที่หมอชิต - ชาวนาบ้านกรด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โวยหมู่บ้านใหญ่ในพื้นที่ ปล่อยน้ำเสียลงนาข้าวทำให้ต้นข้าวยืนต้นตาย นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม เผยหมู่บ้านไม่มีคนเฝ้าระบบบำบัดปล่อยน้ำล้นก่อนบำบัด

นี่เป็นสภาพนาข้าวของ นางสุภาวดี ภาคธรรม ที่ตำบลบ้านกรด อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเธอได้ร้องผ่านทีมข่าวช่อง 7HD ว่า นาข้าวที่ปลูกอยู่ 23 ไร่เศษยืนต้นตาย และเริ่มเน่า หลังหมู่บ้านรอบพื้นที่ลักลอบปล่อยน้ำเสียเข้ามาท่วมในนาข้าว

เธอบอกว่าปัญหานี้มีมายาวนานแล้ว ซึ่งที่ผ่านมามีการทำบันทึกข้อตกลงที่จะเยียวยาปีละ 100,000 บาท โดยมีเทศบาลเป็นคนกลาง แต่มาถึงวันนี้ผ่านมาร่วม 10 ปี ก็ยังไม่มีการดูแล ส่วนท่อระบายน้ำที่อ้างว่า ปิดไปเรียบร้อยแล้ว ก็พบว่ายังมีการระบายน้ำออกมาอย่างต่อเนื่อง

และนี่เป็นภาพที่ นางสุภาวดี ถ่ายเก็บเอาไว้ขณะที่น้ำเสียถูกปล่อยออกมาผ่านท่อเข้าสู่ที่นาของเธอ และเพื่อเป็นการพิสูจน์ยืนยันว่าน้ำเสียมาจากพ่อของหมู่บ้านที่ไม่ได้รื้อออกเธอจึงไปประสานงานกับทางองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกรด ให้นำรถแม็คโครมาตักเปิดหน้าดินซึ่งขอบพบแนวท่อขนาดใหญ่และมีน้ำเสียทะลักออกมา โดยหลังจากที่ทีมข่าวของเราลงพื้นที่ ทางเทศบาลและทางเกษตรจังหวัด ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงมาตรวจดูความเสียหาย

ขณะที่ นายสนธิ คชวัฒน์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเคยลงมาดูพื้นที่ และเข้าไปตรวจสอบในหมู่บ้าน บอกว่าหมู่บ้านที่ต้องสงสัยว่ามีการปล่อยน้ำมา มีระบบบำบัดน้ำเสีย แต่ไม่มีคนเฝ้า และไม่มีคนเปิดปิดระบบ เมื่อมีน้ำฝนตกลงมามาก จึงปล่อยให้บ่อบำบัดน้ำเสียทำหน้าที่แค่เป็นบ่อพักน้ำ และมีน้ำล้นออกมา ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน

อย่างไรก็ตามยืนยันว่าในน้ำเสียที่ปล่อยออกมาก็มีปุ๋ยปะปนมาด้วย หากต้นข้าวสามารถฝ่ามรสุมและเติบโตต่อไป รวงข้าวที่ได้จากพื้นที่นาดังกล่าว สามารถบริโภคได้ ไม่มีสารตกค้าง