คอลัมน์หมายเลข 7 : ปิดคดีมหากาพย์ 20 ปี ทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง

ข่าวภาคค่ำ - เจ้าหน้าที่ตรวจยึดอายัดทรัพย์ ทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง ล็อตสุดท้ายอีก 300 ล้าน ก่อนแถลงข่าวปิดคดี มหากาพย์ 20 ปี เสียหาย 1,500 ล้านบาท ติดตามรายละเอียดกับ คุณมะลิ แซ่ฉิ่น ในคอลัมน์หมายเลข 7 วันนี้

นี่เป็นปฏิบัติการยึดอายัดทรัพย์ ที่ได้มาจากการทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง 25 จุด ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี, นครศรีธรรมราช, ตรัง และพัทลุง ซึ่งเป็นการยึดล็อตสุดท้ายของคดี โดยยึดทรัพย์มาได้อีก 300 ล้านบาท ก่อนปิดสำนวนคดี ที่มีความเสียหายรวมกว่า 1,500 ล้านบาท

คดีนี้เป็นอีกหนึ่งคดีที่คอลัมน์หมายเลข 7 เกาะติดมาตั้งแต่ต้น และพบว่าผู้ต้องหาที่ร่วมกระทำผิด มีตั้งแต่ผู้จัดการ ประธานกรรมการ รองประธาน และเหรัญญิก รวมไปถึงผู้ตรวจสอบบัญชีภาคเอกชน ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีผู้ต้องหากลุ่มนี้ในข้อหาลักทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป, ปลอมเอกสารสิทธิ ใช้เอกสารปลอม และเป็นเจ้าพนักงานทุจริตต่อหน้าที่

พฤติกรรมฉ้อฉลนี้ มีตั้งแต่การใช้ชื่อคนตายมาร่วมกู้กว่า 80 ชื่อ เพิ่มสมาชิกที่ไม่มีตัวตนอีก 300 กว่าคน เบิกเงินสดเกินสัญญาเงินกู้อีกเท่าตัว ตกแต่งบัญชี ใช้เอกสารปลอม โดยทำเป็นขบวนการ และทยอยเบิกเงินส่วนต่างออกจากสหกรณ์เดือนละ 6 ล้านบาท สะสมนานร่วม 20 ปี

ถึงวันนี้มีการสอบปากคำพยานกว่า 959 ราย และยึดทรัพย์ไปแล้วกว่า 1,000 ล้านบาท หลังเปิดปฏิบัติการมา 240 วัน โดยพบว่าผู้ต้องหานำเงินที่ได้มาไปแปลงเป็นอสังหาริมทรัพย์ ทั้งบ้านพร้อมที่ดิน ห้องชุด ที่ดินเปล่า (โฉนด) รีสอร์ต ตลาดสด ทุนเรือนหุ้นสหกรณ์ รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ งานนี้พนักงานสอบสวนได้มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 26 ราย

การดำเนินการที่รวดเร็วและต่อเนื่อง ทำให้คดีนี้กลายเป็นคดีต้นแบบที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติบอกว่า จะนำไปเป็นโมเดลแก้ปัญหาการทุจริตสหกรณ์ที่รุกรามไปทั่วประเทศ

คดีนี้เป็นอีกบทสรุปที่ย้ำชัดว่าการทุจริตคอรัปชัน ไม่ว่าจะมาด้วยวิธีการไหน และจะแปลงทรัพย์ไปเป็นอะไร หากกระบวนการตรวจสอบเอาจริงเอาจัง ไม่ละเว้นแม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐ ก็จะคืนความเป็นธรรม และสร้างความน่าเชื่อถือของกฏหมายในสายตาประชาชนได้