ได้ตัวแล้ว แฟนเก่าสาดน้ำกรดช่างเสริมสวย

เช้านี้ที่หมอชิต - ชายที่ก่อเหตุสาดน้ำกรดใส่หน้าอดีตแฟนสาวได้รับบาดเจ็บสาหัส เข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างว่าเหตุที่ทำไป เพราะต้องการตามง้อขอคืนดี

นายสมประสงค์ หรือ ดิน อายุ 31 ปี ชายที่ก่อเหตุสาดน้ำกรดใส่อดีตแฟนสาว อายุ 25 ปี ช่างทำเล็บในร้านเสริมสวยย่านดอนเมือง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.ปักธงชัย ก่อนถูกพาตัวไปดำเนินคดีที่ สน.ดอนเมือง

นายดิน เล่าให้ฟังว่า หลังแยกกันอยู่กับแฟนสาวประมาณ 1 เดือน ซึ่งตอนนั้นเพิ่งคลอดลูกคนที่ 5 ได้เพียง 2 เดือน เขาจับได้ว่าอดีตแฟนสาวไปคบหากับผู้ชายคนใหม่ ซึ่งพอรู้ข่าวก็ไปคุยกับผู้ชายคนนั้น ทำให้อดีตแฟนสาวไม่พอใจ จนทะเลาะกัน ตนก็พยายามตามง้อขอคืนดี แต่ไม่สำเร็จ จึงตัดสินใจนำน้ำกรดที่สั่งซื้อมาทางออนไลน์ สาดใส่ไปที่ใบหน้า ก่อนพาลูกไปฝากให้พ่อแม่ของตนเองที่อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา เลี้ยงดูแทน ซึ่งเมื่อเล่าเรื่องให้ฟัง พ่อและแม่ก็เกลี้ยกล่อมให้มอบตัว

ขณะที่ พันตำรวจเอก รังสรรค์ สอนสิงห์ ผู้กำกับการ สน.ดอนเมือง เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้เข้าสอบปากคำผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลแล้ว โดยแพทย์ประเมินว่าผู้ได้รับบาดเจ็บอาการค่อนข้างหนัก มีบาดแผลที่ใบหน้าและคอ ยังต้องพักรักษาต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งผลคำให้การประกอบกับความเห็นแพทย์ เพียงพอที่จะใช้ในการแจ้งข้อหาทำร้ายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายสาหัส ส่วนจะถึงขั้นเข้าข่ายเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าหรือไม่ ยังต้องรอดูผลการสอบปากคำผู้บาดเจ็บ และผู้ก่อเหตุก่อน เพื่อดูถึงเจตนาในการลงมืออีกครั้ง

ส่วนอาการบาดเจ็บของผู้เสียหาย ล่าสุดยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องปลอดเชื้อ เพื่อรอให้แพทย์ทำการลอกผิวหนังที่ได้รับความเสียหายจากน้ำกรด เพื่อรักษาชั้นผิวหนัง ทำให้ไม่สามารถอนุญาตให้ผู้ใดเข้าเยี่ยมได้

แม่ของผู้ก่อเหตุ บอกว่า ผู้บาดเจ็บมีลูกติด 1 คน ก่อนจะมีลูกกับผู้ก่อเหตุอีก 3 คน รวมเป็น 4 คน ซึ่งในฐานะเป็นปู่กับย่าก็รับเลี้ยงดูหลาน 4 คน มาตลอด ผู้บาดเจ็บไม่เคยส่งเงินช่วยดูแล มีแต่ผู้ก่อเหตุที่เป็นเสาหลัก หลังจากนี้ปู่กับย่าไม่แน่ใจว่าจะเลี้ยงดูหลานได้หรือไม่ เพราะลำพังอาชีพหาของเก่าขายของคุณปู่ ก็ไม่รู้จะเลี้ยงดู 6 ชีวิตได้หรือไม่

เรื่องนี้นอกจากมิติของข่าวอาชญากรรม มีเรื่องสังคมอยู่ด้วย เพราะเมื่อพ่อเด็กถูกจับ และปู่ย่าเลี้ยงไม่ไหว ก็จะมีปัญหาตามมา ทำให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมาเตรียมลงพื้นที่ หากพบว่าครอบครัวไม่มีศักยภาพดูแลเด็ก ๆ ก็จะยื่นมือลงไปช่วยเหลือทันที