แพทย์ชี้ จ.ส.อ. ยิงเพื่อนทหาร สภาพจิตปกติ

เช้านี้ที่หมอชิต - สรุปแล้วไม่ได้ป่วยอาการทางจิต ตำรวจคุมตัวจ่าคลั่ง กลับมาดำเนินคดีที่ สน.ดุสิต เจ้าตัวเริ่มให้การได้บ้างแล้ว เตรียมแจ้ง 4 ข้อหาในวันนี้ ก่อนฝากขังศาลทหารวันพรุ่งนี้

พันตำรวจเอก วิชัย เเดงประดับ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีที่ จ่าสิบเอก ยงยุทธ มังกรกิม ก่อเหตุยิงเพื่อนร่วมงานเสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 1 คน เหตุเกิดภายในกรมยุทธศึกษาทหารบก ถนนเทอดดำริ เขตดุสิต ว่าได้ส่งตัว จ่าสิบเอกยงยุทธ ไปตรวจสภาพจิตใจที่โรงพยาบาล แพทย์ลงความเห็นว่าผู้ก่อเหตุมีสภาพจิตปกติ จึงต้องควบคุมตัวมาสอบปากคำอีกครั้งที่ สน.ดุสิต เเละเเจ้งข้อกล่าวหาภายในวันนี้ 4 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.พยายามฆ่าผู้อื่น 3.พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร 4.ยิงปืนในเมือง หรือทางสาธารณะ

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาก็เริ่มที่จะให้การได้บ้างเเล้ว โดยทางตำรวจจะนำผลจากเเพทย์ เเละคำให้การจากพยานเเวดล้อม มาประกอบสำนวนคดี ก่อนนำตัวไปฝากขังที่ศาลทหารต่อไป โดยท้ายคำร้องฝากขัง พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ มีอัตราโทษสูง

ครอบครัวของ จ.ส.อ.นพรัตน์ อินทรสุนทร อายุ 58 ปี เสมียนวิทยาลัยการทัพบก ที่ถูกยิงเสียชีวิตคนแรก เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่วัดแก้วจุฬามณี แยกเกียกกาย

นางสุทธิลักษณ์ ครองตน พี่สาวของ จ.ส.อ.นพรัตน์ ระบุว่า ทางกองทัพบกเป็นคนรับผิดชอบการจัดงานศพให้ทั้งหมด ส่วนเรื่องสวัสดิการเป็นไปตามระเบียบของกองทัพ รวมทั้งเงินช่วยเหลือเยียวยาต่าง ๆ เบื้องต้นครอบครัวนำร่างไปที่วัดแก้วจุฬามณี ที่เดียวกับ จ.ส.อ.ปราการ สินส่ง เสมียนวิทยาลัยการทัพบกที่เสียชีวิตอีกคน โดยจะตั้งสวดอภิธรรมศพ 3 คืน และจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 18 กันยายนนี้

ส่วน จ.ส.อ.นพรัตน์ น้องชายเตรียมติดยศร้อยตรี ในเดือนตุลาคมนี้ และวางแผนจะไปสร้างบ้านพักอยู่หลังเกษียณที่จังหวัดอ่างทอง เนื่องจากจะเกษียณอายุราชการในอีก 2 ปีข้างหน้า อีกทั้งเพิ่งจัดงานแต่งงานให้ลูกสาว และกำลังจะมีหลาน แต่ต้องมาจบชีวิตแบบนี้ ทางญาติจึงรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น