กมธ.สภาฯ เชิญเลขาธิการ กกต. ชี้แจงระเบียบเลือกตั้ง

เช้านี้ที่หมอชิต - ยังเป็นที่สับสนอะไรทำได้ ทำไม่ได้ กับกรอบเวลา 180 วัน ก่อนที่สภาฯ จะครบวาระในวันที่ 23 มีนาคม ปีหน้า จนทำให้กรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร เตรียมเชิญ เลขาฯ กกต. ไปแจกแจงรายละเอียดในวันที่ 28 กันยายนนี้

หลังระเบียบ กกต. ว่าด้วยการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง สส. มีผลบังคับใช้แล้ว ฝ่ายการเมืองจึงต้องระมัดระวังเรื่องการหาเสียงในช่วง 180 วัน ก่อนที่สภาฯ จะครบวาระมากขึ้น ซึ่งบรรดานักการเมืองก็ต้องการความชัดเจนในเรื่องนี้

ทำให้ นายอนันต์ ผลอำนวย ประธานคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร ส่งหนังสือเชิญนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ชี้แจงต่อกรรมาธิการฯ ในวันที่ 28 กันยายนนี้ ถึงแนวทางการหาเสียงเลือกตั้ง สส. ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. เพราะกังวลถึงบทบาทหน้าที่ของ สส. ในฐานะกรรมาธิการ ที่ต้องลงพื้นที่พบปะประชาชน และเข้าร่วมประเพณีต่าง ๆ เพื่อจะได้นำรายละเอียดชี้แจงกรรมาธิการทั้ง 35 คณะ ให้เข้าใจตรงกันทุกประเด็น

ด้าน เลขาธิการ กกต. ย้ำว่าระเบียบว่าด้วยวิธีการหาเสียงมีมาตรฐานเดียว ซึ่งเป็นฉบับเดียวกันกับที่ใช้เมื่อการเลือกตั้ง ปี 2562 รวมทั้งการกำหนด จำนวน และขนาดของป้ายหาเสียง ซึ่งพรรคการเมืองคุ้ยเคยอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ คือ กรอบระยะเวลา 180 วัน และระเบียบปฏิบัติในระหว่างที่ยังไม่มีการแบ่งเขตเท่านั้น ดังนั้น พรรคการเมืองจะดำเนินการอะไรต้องเพิ่มความระมัดระวัง ส่วนรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ก็สามารถทำได้ แต่ต้องเป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่ตนเองรับผิดชอบ

นอกจากปฏิทินเกี่ยวกับการหาเสียง การปฏิบัติของนักการเมือง และ ครม. ในช่วง 180 วัน ก่อนถึงวันที่ 23 มีนาคมปีหน้าแล้ว ยังมีอีกหนึ่งปฏิทินที่น่าสนใจ คือ สส.ที่คิดย้ายสังกัดจะต้องเตรียมตัวอย่างไร เพื่อให้สังกัดพรรคครบตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งกรณียุบสภา และอยู่ครบวาระ เพราะทั้ง 2 กรณีนี้ มีเงื่อนไขในเรื่องระยะเวลาสังกัดพรรคแตกต่างกัน

โดยหากอยู่ครบวาระ สส.จะต้องสังกัดพรรคการเมืองจนถึงวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 90 วัน ซึ่งหากนับจากวันที่ กกต. กำหนดเบื้องต้นให้วันที่ 7 พฤษภาคม ปีหน้า เป็นวันเลือกตั้งแล้ว ก็จะทำให้ สส.ที่ต้องการย้ายพรรคต้องจัดการกับตัวเองให้จบไม่เกินวันที่ 8 กุมภาพันธ์ปีหน้า จึงจะถือว่าอยู่ในระยะปลอดภัย

แต่ถ้ามีการยุบสภาก็จะง่ายสำหรับการตกปลาในบ่อเพื่อนมากกว่า เพราะกำหนดระยะเวลาสังกัดพรรคการเมือง จนถึงวันเลือกตั้งไว้เพียงแค่ 30 วันเท่านั้น กูรูการเมืองจึงเชื่อว่าจะได้เห็นปรากฏการณ์ผึ้งแตกรัง หรือ สส.ย้ายพรรค ตั้งแต่ช่วงมกราคมปีหน้า

อาจารย์สมชัย ประเมินด้วยว่า พรรคการเมืองที่เนื้อหอมน่าจะได้กำไรจากการย้ายพรรคมากที่สุด อาจจะเป็นพรรคเพื่อไทย ส่วนพรรคขนาดกลาง ที่มีแนวโน้มจะได้ สส.จากพรรคการเมืองอื่นมากขึ้น คือ พรรคภูมิใจไทย โดยแนะนำให้จับตา สส. 3 กลุ่ม คือ กลุ่มงูเห่า ที่ลงมติสวนพรรคตัวเอง กลุ่ม สส.ฝากเลี้ยง และกลุ่ม สส. ซึ่งคาดว่าจำนวน สส.ที่จะย้ายพรรคไม่น่าจะต่ำกว่า 40-50 คน