ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ลูกสาวแจ้งความจับพ่อ แอบเอาแมวไปทิ้ง จนรถชนตาย จ.ชลบุรี

เช้านี้ที่หมอชิต - เรื่องนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดชลบุรี ลูกสาวขึ้นโรงพักแจ้งความจับพ่อแท้ ๆ ของตัวเอง หลังแอบเอาแมวที่ตัวเองฝากเลี้ยงไว้ นำไปปล่อยทิ้งจนถูกรถชนตาย ก่อนนำซากไปทิ้งที่พงหญ้าข้างทาง ที่สำคัญ "Air Tag" ซึ่งเป็นอุปกรณ์ติดตามของแอปเปิลที่ติดอยู่กับตัวแมวหายไป พิกัดสุดท้ายอยู่ในคลองน้ำนิ่ง ส่วนเหตุผลที่พ่อเอาไปทิ้งเพราะว่าอะไร ข่าวนี้ต้องติดตามให้จบ เพราะพ่อก็มีเหตุผลของพ่อเช่นกัน

เรื่องนี้ถูกแชร์มาจากมูลนิธิวอชด็อกฯ หญิงรายหนึ่งอาศัยอยู่ที่พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เธอร้องเรียนไปที่วอชด็อกไทยแลนด์ เพื่อขอคำปรึกษาทางกฎหมายกับทีมงาน เพราะต้องการจะดำเนินคดีกับพ่อ เนื่องจากพ่อได้นำแมวที่เธอฝากเลี้ยงไว้ชั่วคราว เอาไปทิ้ง แล้วถูกรถชนจนแมวตาย แล้วก็นำไปทิ้งที่พงหญ้า โดยที่ไม่บอกใคร จนมารู้เองจากชาวบ้านที่พบเห็น แล้วโพสต์ลงกลุ่มชมรมคนรักแมวจรพัทยา

เราติดต่อไปที่ผู้หญิงคนนี้ที่เป็นเจ้าของแมว เธอบอกว่าปกติแล้วเธอแยกออกจากพ่อกับแม่มาอยู่ลำพัง และเลี้ยงแมวตัวนี้มาได้ 7 เดือน ชื่อ "ฮาชิ" กำลังตัวโตน่ารัก แต่สัปดาห์ที่แล้วเธอต้องไปทำธุระหลายวัน จึงได้นำแมวไปฝากไว้ที่บ้าน ให้พ่อกับแม่ช่วยดูแลชั่วคราว มีการเตรียมกรงไปไว้ให้หน้าบ้าน เตรียมอุปกรณ์แมวทุกอย่างไปไว้ให้เรียบร้อย

กระทั่งวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา แม่โทรมาหาบอกว่าแมวหายไป หายังไงก็หาไม่เจอ เธอก็เลยไปดูที่ Apple Air Tag เป็นอุปกรณ์ติดตามที่สามารถบอกได้ว่าแมวอยู่ที่ไหน ก็พบว่าพิกัด Air Tag หยุดอยู่กับที่ ใกล้กับซอยนาเกลือ 12 และไม่ขยับไปไหนหลายชั่วโมง แล้วพอดีว่ามีคนโพสต์ประกาศหาเจ้าของแมวถูกรถชน ในกลุ่มชมรมคนรักแมวจรพัทยา เธอจึงเห็นว่าเป็นแมวตัวเอง จึงได้ไปรับน้องกลับมาในสภาพที่ไม่มีชีวิตแล้ว

เธอพยายามถามถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น จนสุดท้ายพ่อยอมรับว่า พ่อจะเอาน้องไปปล่อย แต่น้องกระโดดลงรถ ถูกรถชนตายก่อน จึงนำศพไปทิ้งไว้ที่พงหญ้าแล้วเอา Air Tag ไปโยนทิ้ง ฟังมาถึงตรงนี้ ถ้าเป็นคุณผู้ชมจะทำยังไงดี บางคนอาจจะโกรธ บางคนอาจจะให้อภัยพูดคุยกันได้ แต่เธอบอกว่า เธออยากให้พ่อรู้ว่าสิ่งที่พ่อทำลงไปเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง นอกจากทำร้ายจิตใจลูกแล้ว ยังผิดทั้งกฎหมายและมนุษยธรรม เธอจึงนำเรื่องนี้ไปแจ้งมูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ และแจ้งความข้อหาทารุณกรรมสัตว์ และลักทรัพย์ที่ สภ.บางละมุง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวของเราก็เลยไปพูดคุยกับพ่อ ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่านำแมวไปทิ้ง จนเป็นเหตุให้แมวถูกรถชนตาย พ่อยอมรับว่าเป็นคนเอาแมวไปทิ้งจริง ๆ เพราะว่าแมวมันมาก่อกวนเวลาเตรียมลูกชิ้นไปทอดขาย จึงจับแมวขึ้นรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง เพื่อเอาไปปล่อย

แต่ขับไปไม่ไกล แมวก็กระโดดลงจากรถ และถูกรถจักรยานยนต์ที่ขี่ตามมาชน จนน้องบาดเจ็บและวิ่งเข้าข้างทาง พ่อก็เลยไปจับมาขึ้นรถอีกครั้ง เพื่อจะนำไปปล่อยต่อ แต่แมวก็กระโดดลงอีกเป็นครั้งที่สอง จนถูกรถยนต์ชน แต่ก็ยังไม่ตาย และมีชาวบ้านช่วยอุ้มขึ้นมา พ่อจึงแสดงตัวเป็นเจ้าของ บอกว่าจะพาน้องไปรักษา จนสุดท้ายน้องนิ่งไป จึงนำไปทิ้งไว้ที่พงหญ้าข้างทาง

ยอมรับว่าตอนนั้นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำอะไรไม่ถูก กลัวลูกกับเมียด่า จึงทำแบบนั้นไป และหลังจากที่ลูกสาวแจ้งความจับตัวเอง พอทราบเรื่องแล้วก็เสียใจ ที่ลูกแท้ ๆ ที่ตัวเองเคยเลี้ยงดู มาแจ้งความดำเนินคดีกับพ่อของตัวเองแบบนี้

เมื่อสักครู่พ่อบอกว่าที่เอาแมวไปทิ้ง เพราะแมวมาก่อกวนเวลาเตรียมของไปขาย แต่มีความจริงที่ลูกสาวบอกมาอีกเหมือนกันว่า อีกหนึ่งสาเหตุที่พ่อน่าจะโกรธแมว เพราะพ่อคิดว่าแมวไปทำให้กระต่ายที่พ่อเลี้ยงไว้ในบ้านตายมากกว่า เป็นกระต่ายที่พ่อรักและหวง เลี้ยงมา 7 ปีแล้ว ซึ่งพ่อคิดว่าเป็นฝีมือของแมวฮาชิ แต่ความจริงแล้วกระต่ายอาจจะตกใจเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่า จากฝนที่ตกหนัก ๆ ช่วงที่ผ่านมาก็ได้ แต่มาตายช่วงที่ฮาชิอยู่ด้วยพอดี ประกอบกับไม่ชอบแมวอยู่แล้ว จึงตัดสินใจนำแมวไปทิ้ง

ข่าวนี้ก็นับว่าเป็นอุทาหรณ์ ครอบครัวไหนที่ต้องการจะเลี้ยงสัตว์ อาจจะต้องมีการปรึกษาหารือ หรือตกลงกันให้ดีในครอบครัวก่อน ก่อนจะเลี้ยงอะไร หรือจะฝากสัตว์เลี้ยงของเราไว้กับใคร จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ที่น่าเศร้าแบบนี้

ขอบคุณภาพจาก : Facebook มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark