รวบยกแก๊ง ทำแผนฯ ยิงเสี่ยเบนซ์ จ.อยุธยา

เช้านี้ที่หมอชิต - ตำรวจตามรวบยกแก๊ง คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเสี่ยเบนซ์ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยชนวนเหตุเกิดจากเรื่องคดีความที่ฟ้องร้องหุ้นส่วนธุรกิจโกงเงินไปจำนวนกว่า 30 ล้านบาท

เป็นภาพวินาทีชีวิตที่กล้องหน้ารถบันทึกเอาไว้ได้ ขณะที่รถวิ่งไปตามถนนหลวง และมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด โดยคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงคนขับ ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ก่อนหลบหนีไป

เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นที่ถนนสายเอเชีย อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมา ขณะที่ นายตรีภพ ภูมี อายุ 55 ปี เจ้าของรีสอร์ตในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางกลับจากไปขึ้นศาลจังหวัดธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ในคดียื่นฟ้องหุ้นส่วนร้านอาหาร ในข้อหาฉ้อโกง มีคนร้ายขับรถยนต์ติดตามมา และใช้อาวุธปืนยิงนายตรีภพ แต่นายตรีภพยังแข็งใจ ขับรถไปโรงพยาบาลให้แพทย์รักษาอาการบาดเจ็บ

พลตำรวจโท จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กล่าวว่า ได้เร่งติดตามจับกุมคนร้าย และรวบรวมพยานหลักฐานยื่นศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขออนุมัติออกหมายจับ นำไปสู่การจับกุมคนร้าย 4 คน ประกอบด้วย ชายอายุ 50 ปี ผู้จ้างวาน ชายอายุ 28 ปี คนขับรถพามือปืนไปก่อเหตุ ชายอายุ 32 ปี มือปืน และหญิงอายุ 31 ปี ภรรยาของชายอายุ 32 ปี หลังหลบหนีไปกบดานที่จังหวัดชุมพร ส่วนชนวนเหตุมาจากเรื่องคดีความที่นายตรีภพ มีการฟ้องร้องหุ้นส่วนธุรกิจร้านอาหารในจังหวัดปทุมธานี ฉ้อโกงเงินไปจำนวนกว่า 30 ล้านบาท ทำให้คู่กรณีเกิดความโกรธแค้น ติดต่อคนร้ายไปก่อเหตุ โดยมือปืนยอมรับว่าทำงานให้กับผู้จ้างวานเพื่อตอบแทนบุญคุณ และไม่ได้รับเงินค่าจ้างแต่อย่างใด

สำหรับชายอายุ 50 ปี มีความผิดฐานเป็นผู้ใช้แจ้งวานให้ผู้อื่นร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ชายอายุ 32 ปี มีความผิดร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่รับอนุญาต, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ชายอายุ 28 ปี มีความผิดร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้อนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่อนุญาต, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และหญิงอายุ 31 ปี มีความผิดร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมการพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่อนุญาต

จากนั้นตำรวจนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ถนนสายเอเชีย และฝากขังที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยคัดค้านการประกันตัว ทางด้านนายตรีภพ ได้นำกระเช้าดอกไม้มาขอบคุณตำรวจที่สามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังรู้สึกไม่ปลอดภัย เนื่องจากคนร้ายยังมีการขู่อาฆาตตนเอง