จับได้แล้วโจรสามี-ภรรยา หอบลูกขโมยรถจักรยานยนต์ จ.สุราษฎร์ธานี

เช้านี้ที่หมอชิต - เรื่องนี้เป็นประเด็นที่เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เรานำเสนอกรณีที่มีโจรสามี-ภรรยา ก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านในพื้นที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วใช้วิธีการถีบรถหนีไปไกลกว่า 20 กิโลเมตร ที่สำคัญวันที่ก่อเหตุได้พาลูกน้อยอายุ 2 ขวบ ไปด้วย ล่าสุด ตำรวจ สภ.สิชล สามารถจับกุมทั้งสองสามีภรรยานี้ได้แล้ว

นี่เป็นภาพเหตุการณ์ที่ผู้เสียหายร้องเรียนเข้ามาที่ทีมข่าวช่อง 7HD บอกว่า ถูกขโมยรถจักรยานยนต์หายไปตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา เหตุเกิดที่ หมู่ 2 ตำบลทุ่งใส อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เวลาประมาณ 07.00 น. จากภาพกล้องวงจรปิดมีรถจักรยานยนต์ 2 คัน ขี่มาด้วยกัน คันหนึ่งถีบรถให้อีกคัน ซึ่งทั้ง 2 คน เป็นสามีภรรยากัน ก่อเหตุขโมยรถชาวบ้านโดยที่พาลูกน้อยอายุ 2 ขวบ ไปด้วย ล่าสุด ตำรวจ สภ.สิชล สืบสวนอยู่นานนับเดือน และสามารถจับกุมตัวทั้ง 2 คน ได้แล้ว

ผู้ก่อเหตุ คือ นายปัญญา และ นางสายฝน สองสามีภรรยา หลังก่อเหตุพาลูกกับภรรยาหนีไปอยู่ในสวนไกลผู้คน ในพื้นที่ อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี กระทั่งผู้เป็นภรรยาทนอยู่แบบอด ๆ อยาก ๆ ไม่ไหว จังหวะที่สามีไม่อยู่จึงแอบหนีออกมาและดอดมามอบตัวกับตำรวจ ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบภายในบ้านพัก เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา พบ นางสายฝน กับลูก ส่วน นายปัญญา ไม่อยู่ที่บ้าน จึงแสดงหมายจับและภาพถ่ายให้ดู ยอมรับว่าเป็นตนเองกับสามีที่ร่วมกันก่อเหตุ ตำรวจจึงนำตัวไปดำเนินคดี ส่วนลูกชาย 2 ขวบ ได้ให้สถานสงเคราะห์เด็กในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นผู้ดูแล

ต่อมา วันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ญาติของผู้ต้องหาผู้ชายที่เป็นสามี ได้ติดต่อกับตำรวจว่า นายปัญญา ต้องการจะมอบตัว ตำรวจจึงนำกำลังไปจับกุม จากการสอบปากคำพบว่า ทั้ง 2 คน ทำอาชีพรับจ้างทั่วไป และติดยาเสพติด วันที่ก่อเหตุแค่ขี่รถผ่านมาแล้วเห็นรถจักรยานยนต์จอดอยู่ไม่มีคนก็เลยขโมยรถไป และถีบรถหลบหนีไปที่ อำเภอดอนสัก ส่วนรถจักรยานยนต์ได้นำไปแลกยาเสพติด และเงินจำนวน 280 บาท ตำรวจจึงขยายผลจับกุมคนรับซื้อรถด้วย ส่วนรถจักรยานยนต์ตอนนี้ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนแล้ว

ด้าน ผู้เสียหายยอมรับว่า แม้จะสามารถจับผู้ต้องหาได้ แต่ยังไงก็ไม่หวังว่าจะได้รถคืนแล้ว จึงมีการเรียกร้องกับญาติของผู้ต้องหาให้ช่วยเยียวยาเป็นจำนวนเงิน 60,000 บาท ตามราคารถที่เพิ่งซื้อมาได้ 8 เดือน แต่ทางญาติก็ไม่ได้มีฐานะมาก จึงต่อรองเหลือ 30,000 บาท โดยเป็นการแบ่งจ่าย ทางผู้เสียหายก็เห็นใจและสงสารเด็กด้วยจึงตกลงตามนั้น ส่วนรถจักรยานยนต์โชคดีที่ทำประกันรถหายไว้ จึงไม่ต้องรับผิดชอบค่างวดอีก