ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ผลกระทบโนรู ภาคอีสานอ่วม ล่าสุด อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง

เช้านี้ที่หมอชิต - ผลกระทบจากพายุโนรู ในพื้นที่ภาคอีสานอ่วม โดยเฉพาะจังหวัดอุบลราชธานี มีเหตุการณ์ดินริมตลิ่งแม่น้ำโขง ภายในรีสอร์ตที่พักอำเภอโขงเจียม ทรุดตัว ทำให้บ้านพักได้รับความเสียหายรวม 9 หลัง ส่วนที่อำเภอวารินชำราบ มีถนนทรุดตัวตัดขาด ไม่สามารถสัญจรได้ ขณะที่ล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า พายุโนรู ได้อ่อนกำลังลงแล้ว กลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง

เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาพายุดีเปรสชัน "โนรู" มีศูนย์กลางอยู่บริเวณอำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงแล้ว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังแรง ส่งผลทำให้ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

ในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล, ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มต่อไปอีก 1 วัน ซึ่งรวมถึงชาวเรือ ให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 1 ตุลาคมนี้

ขณะที่ในพื้นที่ภาคอีสาน จังหวัดอุุบลราชธานี ซึ่งได้รับผลกระทบจากพายุโนรู อย่างหนักในหลายอำเภอ โดยเฉพาะที่โขงเจียม ทำให้เกิดเหตุการณ์ดินไหล ภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำโขง เป็นทางยาวประมาณ 100 เมตร มีความลึกกว่า 7 เมตร ทำให้เกิดอันตรายจนต้องปิดบริการ โดยพบบริเวณหน้าห้องพักรีสอร์ตได้รับความเสียหายจำนวน 9 หลัง คิดเป็นความเสียหายกว่า 1.5 ล้านบาท ล่าสุด ภายหลังเกิดเหตุนายอำเภอโขงเจียม พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมระดมกำลังทหารและเจ้าหน้าที่เทศบาลเข้าช่วยเหลือขนย้ายข้าวของและทรัพย์สินต่าง ๆ ออกจากห้องพักแล้ว เพื่อความปลอดภัยและป้องกันเหตุการณ์ดินไหลที่อาจเกิดขึ้นซ้ำอีก พร้อมประสานฝ่ายโยธาฯและผังเมือง วางแนวทางป้องกันแก้ปัญหาในระยะยาว

ส่วนที่บ้านคำขวาง ตำบลคำขวาง อำเภอวารินชำราบ พบว่า ถนนที่เชื่อมต่อระหว่างวัดบ้านแต้ กับบ้านโนนเค็ง ถูกตัดขาดทรุดตัว พังครืนลงมาตลอดแนวทั้งสองช่องทาง มีความลึกประมาณ 5 เมตร จากผลกระทบพายุโนรู ที่ฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถผ่านไปมาได้ เนื่องจากเป็นถนนเส้นหลักที่ใช้เดินทางเป็นประจำ 

สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี พบว่า มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุโนรู ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง ไหลท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตร ซึ่งเป็นที่ลุ่มต่ำทั้งหมด 15 อำเภอ ไม่เว้นแม้แต่่ตัวเมืองอุบลราชธานี โดยมีการอพยพชาวบ้านจาก 47 ชุมชน ใน 5 อำเภอ มาอยู่ในจุดที่ปลอดภัยที่ทางการจัดไว้ให้จำนวน 1,780 ครอบครัว รวมผู้เดือดร้อนทั้งหมด 5,996 คน

ส่วนที่อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ พบว่า อิทธิพลของพายุ "โนรู" ซึ่งมีฝนตกตลอดทั้งวัน ทำให้ปริมาณน้ำภายในแม่น้ำชี เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเอ่อล้นท่วมถนนหนทาง บ้านเรือนประชาชน วัด และโรงเรียน ในพื้นที่ 2 หมู่บ้าน คือบ้านโนนสว่าง และบ้านแสลงพันใน ตำบลลำดวน โดยพบ บางจุดมีน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร บ้านเรือนเสียหาย 42 หลังคาเรือน

ล่าสุด ทาง อบต.ลำดวน ได้นำเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์ เข้ามาช่วยเหลือดูแลชาวบ้านที่เดือดร้อน โดยให้บริการรับ-ส่ง จากหมู่บ้านออกมาทำธุระและซื้อของกินของใช้ที่จำเป็นในตัวอำเภอ

ยังคงอยู่ที่ภาคอีสาน ที่อำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา พบว่า มีปริมาณน้ำไหลแรงเอ่อท่วมถนนหนทางเข้าออกวัดตะกุดเครือปลอก และท่วมพื้นที่ภายในวัด โรงเรียน และบ้านเรือนประชาชนในหมู่บ้านสะพานดำ ตำบลจักราช โดยมีกระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยวกรากอยู่ตลอดเวลา ขณะที่พระและเณรในวัด ได้ออกมาสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น ส่วนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ได้รับความเดือดร้อน ต่างก็ออกมาช่วยกันกรอกกระสอบ วางเป็นแนวป้องกันกระแสน้ำที่ไหลเข้ามาท่วมบ้านเรือนในชุมขน   

ส่วนที่ตำบลหนองกุง อำเภอโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ มีเหตุการณ์สลดใจเกิดขึ้นที่บริเวณฝายน้ำล้นหนองแวง ขณะที่มีกระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยวกราก มีน้ำท่วมสูงบริเวณฝายน้ำล้นประมาณ 50 เซนติเมตร โดยพัดพาร่างของชาวบ้านสูงอายุ เป็นคู่สามีภรรยา อายุ 76 ปี และ 67 ปี จมหายไปในน้ำทั้งสองคน ในระหว่างที่กำลังขี่รถจักรยานยนต์ข้ามฝายน้ำล้น เพื่อเดินทางกลับบ้าน โดยจมน้ำหายไปทั้งรถทั้งคนยังไม่รู้ชะตากรรม เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเย็นวานนี้ โดยอาสากู้ภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ช่วยกันค้นหาอยู่นานหลายชั่วโมง จนถึงเวลา 22.00 น. ก็ยังไม่เจอตัว จึงได้ยุติการค้นหาชั่วคราว และจะระดมกำลังค้นหาใหม่อีกครั้งในช่วงเช้าของวันนี้  

ไปต่อกันในพื้นที่ภาคกลางที่จังหวัดสุพรรณบุรี พบว่า สถานการณ์น้ำภายในแม่น้ำท่าจีน ล่าสุดเมื่อวานนี้ ภายหลังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีการระบายน้ำจากเขื่อนกระเสียวและประตูน้ำพลเทพ ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำท่าจีน สูงขึ้น มีผลให้พื้นที่ท้ายน้ำ 3 อำเภอคือ อำเภอเมือง อำเภอบางปลาม้า และอำเภอสองพี่น้อง มีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำหลายจุด โดยเฉพาะใน 2 ตำบล ที่อยู่ในเขตเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนที่ตำบลโคกคราม อำเภอบางปลาม้า พบว่า พื้นที่ท้ายน้ำแม่น้ำท่าจีน มีระดับน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร เอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน ได้รับความเสียหายกว่า 150 หลังคาเรือน รวมถึงพื้นที่นาข้าวและบ่อกุ้งก็ได้รับความเสียหายไปด้วย

พาขึ้นเหนือไปที่กว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา พบว่า มีปริมาณน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบริเวณลานพญานาค หลังจากมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ล่าสุด ปริมาณน้ำในกว๊านพะเยาอยู่ที่ 63.6 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีมากว่าปริมาณการกักเก็บน้ำที่ 55.6 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้พื้นที่ทางการเกษตรหลายตำบล ที่อยู่โดยรอบบริเวณกว๊านพะเยา มีน้ำท่วมขังมาหลายวันแล้ว รวมถึงพื้นที่ 2 ตำบลของอำเภอดอกคำใต้ คือ ตำบลห้วยลาน และตำบลป่าซาง และอีก 3 ตำบลของอำเภอภูกามยาว ซึ่งอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำอิงต่างก็ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ตัวมืองพะเยา ต่างก็พาบุตรหลานมาเดินเล่นและเล่นน้ำ ที่บริเวณลานพญานาคกว๊านพะเยา กันอย่างคึกคักสนุกสนาน

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark