เขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มการระบายน้ำอีก จ.ชัยนาท

เจาะประเด็นข่าว 7HD - พื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ต้องบอกว่าสถานการณ์ยังน่าเป็นห่วงเช่นกัน เนื่องจากมีน้ำเหนือจำนวนมากไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง วันนี้ เขื่อนเจ้าพระยา จึงปรับการระบายน้ำอีกครั้ง โดยเพิ่มเป็น 2,598 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที 

สถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา วันนี้ มีปริมาณน้ำเหนือไหลผ่าน 2,695 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 84 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และเมื่อเวลา 15.00 น.ที่ผ่านมา เขื่อนเจ้าพระยา ได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำอีกครั้ง เป็น 2,606 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำพื้นที่ท้ายเขื่อนที่อำเภอสรรพยา สูงขึ้นอีก 3 เซนติเมตร

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอสรรพยา ก็ยังขยายวงกว้างมากขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากคันดินกั้นน้ำบริเวณตำบลโพนางดำออก และคันกระสอบทรายกั้นน้ำบริเวณตำบลหาดอาษา ถูกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวแรงพัดพังเสียหายหลายจุด ทำให้น้ำจำนวนมากทะลักเข้าท่วมพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ชาวบ้านบอกว่า ปีนี้เขื่อนเจ้าพระยา ปล่อยน้ำมาเร็ว จึงเก็บข้าวของไม่ทัน พืชผลทางการเกษตรที่ปลูกไว้ก็จมน้ำเสียหาย ขณะนี้ทุกคนต่างถอดใจกันแล้ว ต้องปล่อยให้น้ำท่วมหมู่บ้าน แล้วขนข้าวของย้ายหนีกันมาอยู่รวมกันริมถนนคลองมหาราช แทน

ส่วนที่จังหวัดอ่างทอง ระดับน้ำเจ้าพระยา ที่เพิ่มสูงขึ้นและไหลเชี่ยวแรง พัดคันดินริมแม่น้ำบริเวณชุมชนย่อยที่ 10 ใกล้ที่ว่าการอำเภอป่าโมกหลังเก่า พังเป็นช่องขนาดใหญ่ และน้ำจำนวนมากก็ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ ชาวบ้านกว่า 150 ครัวเรือน ต้องขนข้าวของและทรัพย์สิน รวมทั้งรถยนต์ออกจากบ้าน แต่บางคนเคลื่อนย้ายไม่ทัน เพราะน้ำไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจมน้ำเสียหายหลายคัน ชาวบ้านต้องใช้เรือเดินทางเข้า-ออก หมู่บ้าน 

นอกจากนี้ น้ำยังไหลท่วมถนนสาย 309 ช่วงตั้งแต่ใกล้สี่แยกไฟแดงป่าโมก ถึงหน้าที่ว่าการอำเภอป่าโมก หลังใหม่ ซึ่งระดับน้ำสูงและไหลเชี่ยว ล่าสุด น้ำได้ไหลไปตามเส้นทางเข้าพื้นที่ชุมชนสำเภาลอย ตำบลโรงช้าง และตำบลบางเสด็จ เจ้าหน้าที่ได้ประกาศแจ้งเตือนให้ชาวบ้านรีบขนข้าวของขึ้นที่สูง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย

เช่นเดียวกับที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันนี้ แม่น้ำเจ้าพระยา ที่หน้าวัดไชยวัฒนาราม ได้เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ต้องเร่งตรวจสอบและเพิ่มเครื่องสูบน้ำเพื่อเตรียมรับน้ำที่จะสูงขึ้นอีก

ขณะที่แม่น้ำป่าสัก ก็เพิ่มสูงขึ้น 60 เซนติเมตร ทำให้เขื่อนพระราม 6 ต้องยกบานประตูระบายน้ำครบทั้ง 4 บาน ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอท่าเรือ ขยายวงกว้าง ชาวบ้านพื้นที่ท้ายเขื่อนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก เพราะบ้านถูกน้ำท่วมเกือบมิดหลังคา ต้องอพยพมาอยู่บนถนนกันนับร้อยหลังคาเรือน ส่วนที่วัดสะตือ ระดับน้ำเหลืออีกไม่ถึง 30 เซนติเมตร ก็จะเสมอพื้นวัดแล้ว