ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ตีตรงจุด : ไขปมปัญหาระบบซื้อ-จองล่วงหน้า สลากกินแบ่งรัฐบาล

เช้านี้ที่หมอชิต - ปัญหากลุ่มผู้ค้าสลากฯ ระบบ "ซื้อ-จองล่วงหน้า" สลากกินแบ่งรัฐบาล ก็ยังหาข้อยุติที่ลงตัวไม่ได้ หลังคณะกรรมการสลากฯ มีแนวทางจะนำระบบสุ่มโควตา มาใช้แทนการไปกดจองผ่านระบบ เพื่อแก้ปัญหาการยื้อแย่งจนเกิดความขัดแย้ง เหมือนที่เป็นข่าวเป็นคราวไปก่อนหน้านี้

แต่แนวทางดังกล่าว ทำท่าว่าจะสะดุด โดยวันนี้กลุ่มผู้ค้าสลากฯ ทั่วประเทศ รวมตัวเรียกร้องให้บอร์ดสลากฯ หาวิธีการจัดสรรสลากฯ ใหม่ โดยต้องเพิ่มสลากฯ ให้เพียงพอต่อผู้ค้าทั้ง 170,000 คน แต่ก่อนไปที่ภาพการชุมนุม เราไปย้อนดูกันก่อน ทำไมสลากฯ 100 ล้านฉบับ จึงเกิดปัญหาที่ระบบ "ซื้อ-จองล่วงหน้า"

ก่อนอื่นเรามาคลี่ดูสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวนงวดละ 100 ล้านฉบับ ว่าไปกระจายอยู่ตรงไหนบ้าง ซึ่งเมื่อช่วงเกือบปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทีมข่าวของเราตรวจสอบกับ อาจารย์ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากฯ ซึ่งได้ฉายภาพให้เห็นว่า

สลากฯ ทั้ง 100 ล้านฉบับนั้น มี 30 ล้านฉบับ เป็นของผู้ที่มีโควตา อยู่แล้วราว ๆ 60,000 คน ส่วนอีก 70 ล้านฉบับ มีราว 12 ล้านฉบับ คือ สลากฯ ดิจิทัล ที่ขายในระบบของรัฐบาล

ซึ่งจริง ๆ สลากดิจิทัลมีเพดานอยู่ที่ 20 ล้านฉบับ แต่ยังไม่นำเข้าระบบทั้งหมด ค่อย ๆ เพิ่มจำนวน โดยงวดล่าสุด (16 ต.ค.2565) อยู่ที่เกือบ 14 ล้านฉบับ

โดยหากยังยึดตัวเลขเดิม จะเห็นว่ามีสลากฯ เหลืออีก 58 ล้านฉบับ ก็จะถูกส่งเข้าสู่ "ระบบซื้อ-จองล่วงหน้า"

ซึ่งผู้ต้องการขายสลากฯ ต้องกดผ่านระบบทางตู้เอทีเอ็ม หรือแอปพลิเคชันเป๋าตัง หรือกดจากทั้ง 2 ระบบไปพร้อมกัน แต่ที่ผู้ค้าในระบบ "ซื้อ-จองล่วงหน้า" เกิดปัญหา เพราะมีจำนวนผู้ต้องการขายมากกว่าจำนวนสลากฯที่มี เพราะจากเดิมเคยมีผู้ค้าในระบบราว ๆ 100,000-110,000 คน แต่ก็มีการลงทะเบียนกันใหม่ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา นำมาสู่ปลายทางสุดท้าย เมื่อราว ๆ หลังวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา

ก็คัดสรรเคาะกันมาจนได้ผู้ค้าสลากฯเข้าระบบรวมอยู่ที่ 170,000 คน แต่สลากฯ มีเพียง 58 ล้านฉบับ หากบอกว่า 1 คน ได้ 5 เล่ม หรือ 500 ใบ ก็แน่นอน สลากฯ 58 ล้านฉบับ มีไม่พอ เพราะผู้ค้าสลากฯ เพียง 100,000 คน ก็ถือสลากฯกันไปแล้ว 50 ล้านฉบับ เหลืออีก 8 ล้านฉบับ กับผู้ค้าอีกราว ๆ 70,000 คน ถ้าจะเอาคนละ 5 เล่ม หรือ 500 ฉบับ ยังไงก็ไม่พอ จึงเกิดปัญหาการไปต่อรอคิวยื้อแย่ง ทะเลาะกันหน้าตู้เอทีเอ็ม

ซึ่งปัญหานี้ก็เรียกว่าร้อนฉ่า ถึงขั้นคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือบอร์ดสลากฯ นำมาพิจารณาเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา พร้อมกับมีมติว่าจะนำระบบสุ่มโควตา มาใช้แทนการไปยืนกดจองกันเองผ่านระบบ ซึ่งจะมีผลทำให้ผู้ค้าสลากบางคน อาจมีสลากฯ ขายแบบ "งวดเว้นงวด" เท่านั้น หรือบางคนโชคดี มีสลากฯ ขายมากสุดเกือบทุกงวด หรือราว ๆ 10 งวดก็ได้ แต่อย่างน้อยการันตีว่า สลากฯ มีให้ขายอย่างทั่วหน้าแน่นอน เพราะตามระบบเก่าที่เคยใช้กันมา ผู้ค้าสลากฯก็มีพลาดหวังไม่ได้สลากฯไปขายกันอยู่แล้ว บางคนทั้งปีได้แค่ 1-2 งวดเอง อันนี้คือเหตุผลที่คณะกรรมการสลากฯ เลือกใช้วิธีสุ่มโควตา

แต่มตินี้กลับไม่ผ่านฉลุยอย่างที่บอร์ดสลากฯ คิด เพราะกลุ่มผู้ค้าสลากฯ ไปหารือคิดร่วมกันแล้วว่า มตินี้เป็นการ "ฆ่า หรือทำลาย" อาชีพค้าสลากฯ กันชัด ๆ เพราะผู้พลาดหวัง ไม่มีสลากขาย นั่นหมายถึงการไม่มีเงินเลี้ยงปากท้องตัวเองและครอบครัวได้ อาจต้องไปหาอาชีพอื่นทำแทน หรือไม่หากจะยังอยู่ในระบบต่อ ก็ต้องไปรับสลากฯ ตามจุดขายส่งใน 3 ตลาดที่เราทราบกันอยู่แล้ว

ซึ่งงวดนี้ ราคาสลากฯ ต้นทุนที่หน้าตลาด ยังไม่ลงแผงอยู่ที่ฉบับละ 98 บาทกันแล้ว หากผู้ค้าตัดสินใจนำมาขาย นั่นก็ไม่พ้น สลากฯขายเกินราคาฉบับละ 80 บาท แน่นอน จึงมีการรวมกลุ่มผู้ค้าสลากฯ ในวันนี้ ไปปักหลักเรียกร้องให้ทางบอร์ดสลากฯ หาวิธีเพิ่มสลากฯ เข้ามาให้เพียงพอกับคนทั้ง 170,00 คน เพราะมองว่าเมื่อบอร์ดสลากฯ เพิ่มคนเข้าระบบมาได้ ก็ต้องรับผิดชอบหาสลากฯ มาให้ขายกันได้ครบทั้งหมดทุกคน จึงจะเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark