ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

เจ้าของบ้านเศร้า ร้องทนายฯ ถูกธนาคารยึดบ้านผิดหลัง

ข่าวสังคม 3 ตุลาคม 2565 - ห้องข่าวภาคเที่ยง - จะเรียกว่าเคราะห์ร้ายหรือความซวยก็ได้ที่มีทีมรีโนเวทบ้าน ซึ่งถูกว่าจ้างจากธนาคารแห่งหนึ่ง เข้าไปรื้อเอาทรัพย์สินผู้เสียหายที่อยู่ในบ้าน รื้อออกมาเผาทำลาย เพราะเข้าใจว่าเป็นบ้านที่ถูกยึดแทนการชำระหนี้ของธนาคาร แต่ที่จริงแล้วเป็นบ้านคนละหลังกัน ไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดกันก่อน

นี่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในจังหวัดปทุมธานี ที่ได้มอบให้กับผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐาน หลังรู้สึกแปลกใจที่เห็นคนของธนาคารเข้าไปรื้อทรัพย์สินต่าง ๆ ในบ้านออกมาเผาทำลาย ตั้งแต่วันที่ 5-11 กันยายนที่ผ่านมา กระทั่งพอเห็นมีการติดประกาศไว้หน้าบ้าน ว่าประกาศขายบ้านเลขที่ ๆ หนึ่ง ซึ่งไม่ใช่เลขที่บ้านหลังดังกล่าว และได้ลองโทรไปสอบถามตามเบอร์โทรศัพท์ที่เขียนไว้ที่ป้ายแล้ว พบว่ามีการประกาศขายบ้านเลขที่นั้นจริง ๆ จึงรีบแจ้งให้เจ้าของบ้านผู้เสียหายเข้าไปดู

เจ้าของบ้าน เล่าให้ฟังว่า ได้ซื้อบ้านหลังนี้ไว้ แต่ไม่ค่อยได้อยู่อาศัย ปกติจะคอยเข้าไปทำความสะอาดสัปดาห์ละครั้ง จนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พ่อมีอาการป่วย ทำให้ไม่ได้แวะเข้าไปดูแลบ้าน อาจทำให้บ้านดูรกเหมือนไม่มีคนอยู่อาศัย หลังไปเห็นสภาพบ้านที่ถูกรื้อทรัพย์สินต่าง ๆ หายไปเกลี้ยง ยอมรับว่าทำเอาถึงกับช็อกจนน้ำตาไหล เพราะของที่ถูกรื้อออกไปล้วนมีคุณค่าต่อจิตใจ เช่น พระเครื่อง, เฟอร์นิเจอร์ที่พ่อเป็นคนทำ, อุปกรณ์เครื่องมือ, หนังสือสะสม, ของที่ทำให้ลูกหายไปจนหมด

ช่วงเย็นวันที่ 15 กันยายน หลังเข้าไปดูบ้านได้ติดต่อเข้าไปที่คอลเซ็นเตอร์ธนาคารที่เป็นคนรับผิดชอบ ก็มีเจ้าหน้าที่รับเรื่องไว้ แต่ไม่ติดต่อกลับมา กระทั่งได้ความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง จนได้พูดคุยกับนิติกรของธนาคาร ซึ่งได้ขอโทษและรับว่าเข้าไปรื้อทรัพย์สินผิดบ้านจริง ทางธนาคารได้เก็บทรัพย์สินไว้บางส่วนประมาณ 10 กว่ารายการ เช่น พระพุทธรูป, ตู้, โทรทัศน์, เครื่องเสียง ทรัพย์สินอื่น ๆ จะให้คนเร่งติดตามหามาคืนและขอชดใช้ค่าเสียหาย จึงได้นัดกันไปเจรจากันที่ สภ.ลาดหลุมแก้ว เมื่อวันที่ 19 กันยายน ตอนนั้นได้เรียกค่าเสียหายไป 2 ล้านบาท ซึ่งตัวแทนธนาคารก็รับเรื่องไป แต่จากนั้นก็เงียบหายไม่แจ้งความคืบหน้าใด ๆ อีก

ขณะที่ ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม บอกว่า จากหลักฐานพบว่าธนาคารกระทำผิดจริง ซึ่งหลังเข้ามาหารือกันในช่วงบ่ายวันนี้ ก็จะพาผู้เสียหายไปแจ้งข้อหาเพิ่มเติม คือ ร่วมกันบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ และหมิ่นประมาท

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark