ทนายความ ชี้ ผู้ปกครองเยาวชนเสี่ยงผิดด้วย ปล่อยลูกขับรถชนวิศวกรเกียรตินิยม เสียชีวิต
เช้านี้ที่หมอชิต - กรณีเยาวชนชายอายุ 15 ปี ซิ่งรถยนต์ชนวิศวกรหนุ่มอายุ 24 ปี ดีกรีเกียรตินิยม เสียชีวิต ที่จังหวัดนครราชสีมา สภาทนายความภาค 3 ให้ความเห็นว่า ผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุอาจมีความผิดด้วย หากพิสูจน์ได้ว่าสนับสนุนให้เยาวชนทำผิด ขณะที่ตำรวจยังไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ เพราะผู้ก่อเหตุอ้างติดสอบปลายภาค
เมื่อวาน (3 ต.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์กลาง จังหวัดนครราชสีมา เดิมทีมีนัดเรียกเยาวชนชายอายุ 15 ปี เข้าให้ปากคำ กรณีขับรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์ นายธนพล อายุ 24 ปี เสียชีวิตที่บริเวณสี่แยกไฟแดง ถนนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ประตู 1 เมื่อกลางดึกวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา โดยใช้กระบวนการสหวิชาชีพ และตั้งใจจะแจ้งข้อกล่าวหากับเยาวชนทั้งหมด 3 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ขับรถฝ่าสัญญาณไฟแดง และไม่มีใบอนุญาตขับขี่
แต่วันนี้ พนักงานสอบสวนประสานไปยังครอบครัวของเยาวชนชายอายุ 15 ปี แต่ครอบครัวแจ้งว่าลูกชายติดสอบปลายภาค โดยภายในสัปดาห์นี้พนักงานสอบสวนจะนัดเยาวชนผู้ก่อเหตุมาพบเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาให้ได้
ทั้งนี้ มีข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นอดีตนักกีฬาเทนนิส เยาวชนทีมชาติ ช่วงปี 2561-2564 แต่ปัจจุบันไม่ใช่แล้ว
นายวีระศักดิ์ บุญเพลิง กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 3 ระบุว่า เบื้องต้น มีการประสานคณะกรรมการสภาทนายความภาค 6 ซึ่งดูแลรับผิดชอบจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของผู้เสียชีวิต โดยในเช้าวันนี้ (4 ต.ค.) จะมีกรรมการสภาทนายความภาค 6 ลงพื้นที่ไปพบกับครอบครัวผู้เสียชีวิตเพื่อพูดคุยสอบถามรายละเอียด
ส่วนข้อมูลการดำเนินคดี เมื่อครอบครัวแต่งตั้งให้สภาทนายความภาค 3 (นครราชสีมา) รับดูแลเรื่องนี้ สภาทนายความภาค 3 จะจับตาดูการทำหน้าที่ของตำรวจ ในการแจ้งข้อกล่าวหาว่าครบถ้วนทุกประเด็นหรือไม่ โดยเฉพาะประเด็นที่หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า กรณีนี้ผู้ปกครองจะมีความผิดด้วยหรือไม่ เพราะไม่ดูแลบุตรหลานในปกครอง ซึ่งตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มีการระบุว่า กรณียินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่เหมาะสม หรือมีประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำความผิด ผู้ปกครองก็ต้องมีความผิดด้วย ซึ่งโทษ คือ จำคุกสูงสุดไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนกรณีความผิดทางแพ่ง มาตรา 429 ถ้าผู้เยาว์ไปทำละเมิดจนเกิดความเสียหาย กฎหมายระบุให้ผู้ปกครองร่วมชดใช้อยู่แล้ว เว้นแต่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ผู้ปกครองใช้ความระมัดระวังสมควรตามหน้าที่แล้ว จึงไม่ต้องรับผิดชอบ
