จุดธูปไหว้ตู้ ATM จองคิวสลากกินแบ่งรัฐบาล จ.นนทบุรี

เช้านี้ที่หมอชิต - ปัญหาการแย่งจองคิวตู้เอทีเอ็ม เพื่อกดจองสลากกินแบ่งรัฐบาล นับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น บางคนหมดหนทางถึงขั้นจุดธูปหน้าตู้เอทีเอ็มกันเลยทีเดียว

เรียกว่าสายมูก็มา เพราะหมดสิ้นหนทางแล้ว นางสุภาภรณ์ ถึงเอี่ยม หรือ ป้าเจ็ก อายุ 69 ปี ถึงกับต้องนอนรอเพื่อกดคิวซื้อสลากฯ ที่ตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย บริเวณศูนย์อาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี โดย ป้าเจ็ก ลงทุนนอนเฝ้าตู้ ATM พร้อมพกยากันยุงมาด้วย เพื่อจองคิวรอกดจองสิทธิซื้อสลากฯ ซึ่งได้รับจ้างกด ถ้ากดได้ ก็ได้ 500 บาท ถ้ากดไม่ได้ ก็ได้ 200 บาท ซึ่งสมัยก่อนไม่ต้องแย่งกันขนาดนี้ แต่เมื่อมีการเพิ่มจำนวนผู้ค้าสลากฯ ส่วนปริมาณสลากฯ ลดลง เพราะแบ่งไปอยู่ในระบบดิจิทัลด้วยแล้ว ทำให้ผู้ค้าสลากฯ รายย่อยเดือดร้อนหนัก

ปัญหาการแย่งชิงสลากฯ นอกจากต้องหันไปพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว บางพื้นที่ยังมีการเปิดศึกใส่กันด้วย อย่างที่พัทลุง เกิดปัญหาการจองคิวด้วยรถจักรยานยนต์ พร้อมมีป้ายฟิวเจอร์บอร์ดมีข้อความว่า "จองลอตเตอรีคิวที่ 1" แขวนติดไว้กับคันเร่งรถ เป็นต้นเหตุทำให้เกิดการโต้เถียงกัน จนต้องแจ้งตำรวจมาช่วยเจรจา เพราะต่างฝ่ายต่างไม่ยอม ฉันเป็นที่หนึ่ง เมื่อตกลงกันไม่ได้ระหว่างคนที่ใช้รถจักรยานยนต์จอง กับคนที่ลงทุนลงแรงมานอนเฝ้าตู้ทั้งคืน จึงกลายเป็นเรื่อง

โดยผู้ที่มานอนเฝ้าคือ นายสุชาติ ดำแก้ว อายุ 63 ปี มานอนเฝ้าจองคิวที่ 1 บริเวณหน้าตู้ ATM ตั้งแต่ 17.00 น. ของวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่ก่อนจะถึงเวลาที่ทางสำนักงานสลากฯ เปิดให้กดซื้อได้เล็กน้อย ได้มี นางภัสพร ดุลพินิจ อายุ 67 ปี เดินทางมาถึง พร้อมหลานชาย และแสดงตัวเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ที่แขวนป้ายจองคิวที่ 1 จึงทำให้เกิดการปะทะคารมกัน

สุดท้ายไม่สามารถหาข้อยุติได้ ก็เลยต้องพึ่งตำรวจให้มาช่วยตัดสินว่าระหว่างจอดรถทิ้งไว้พร้อมป้ายจองคิว กับ คนที่มานอนรอจองคิว ใครจะได้สิทธินั้น

ตำรวจ ตัดสินว่า คนที่มานอนจองคิวควรได้สิทธิกดคิวก่อน ต่อด้วย นางภัสพร และหลานชาย ให้สิทธิแต่ละคนกดได้เพียง 1 ครั้ง จากนั้นก็หมุนเวียนกัน โดยตำรวจคอยเป็นพยานดูอยู่

ที่พีกไปกว่านั้นคือ ทั้ง 3 คน ไม่สามารถกดซื้อได้แม้แต่คนเดียว จึงแยกย้ายกันกลับบ้าน ซึ่งจากการตรวจสอบบริเวณหน้าตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย ของตำรวจ พบว่าทุกตู้มีผู้ประกอบการขายลอตเตอรีมารอกันเป็นจำนวนมาก

นี่ก็เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาหลายเดือนแล้ว เพราะมีผู้ค้าสลากฯ รายย่อยมากถึง 170,000 คน จากเดิมที่มี 110,000 คน จำนวนสลากฯ ก็ไม่เพียงพออยู่แล้ว เมื่อจำนวนคนเพิ่มขึ้นแต่ปริมาณสลากฯ ยังเท่าเดิม จึงเกิดปัญหาตามมาทุกงวด

ที่ต้องติดตามกันต่อ คือ การนำระบบสุ่มโควตา มาใช้แทนการไปยืนกดจองกันเองหน้าตู้ ATM ซึ่งจะมีผลทำให้ผู้ค้าสลากฯ บางคน อาจมีสลากฯ ขายแบบ "งวดเว้นงวด" เท่านั้น ซึ่งจะนำมาใช้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะแก้ปัญหานี้ได้จริงหรือไม่