ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ตีตรงจุด : โศกนาฏกรรม กราดยิง บทเรียน ที่ถอดซ้ำซาก

เช้านี้ที่หมอชิต - ตีตรงจุด วันนี้ ปักหมุดที่โศกนาฏกรรมจากเหตุกราดยิงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ที่จังหวัดหนองบัวลำภู การดูแลสภาพจิตใจของครอบครัวเหยื่อ การเยียวยา และการถอดบทเรียน จะเป็นอย่างไร ไปติดตาม

เชื่อว่าช่วงบ่ายวานนี้ คงเป็นห้วงเวลาที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น หลายคนช็อกกับข่าวที่ได้ยิน และเริ่มตั้งคำถามว่าทำไมทุกครั้งที่เกิดเหตุร้ายรุนแรง เรามักจะพูดถึงการถอดบทเรียนแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่กลับไม่เคยยุติความรุนแรงได้อย่างจริงจัง

หากเราย้อนรอยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จะพบเหตุการณ์กราดยิงล้วนมาจากคนมีสี ที่ถืออาวุธเพื่อปกป้องประชาชนทั้งสิ้น

ไล่ตั้งแต่เหตุกราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2563 ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตมากถึง 31 คน ผู้ก่อเหตุเป็นนายทหาร อ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บังคับบัญชา

ต่อมาเกิดเหตุสลด จากกรณีอดีตทหารเกณฑ์คลั่ง บุกยิงภายในโรงพยาบาลสนาม จังหวัดปทุมธานี เมื่อปลายเดือนมิถุนายน ปี 2564 มีผู้เสียชีวิต 2 คน อ้างคับแค้นใจ เคยถูกคนเสพยาเสพติดทำร้าย

และ 14 กันยายนที่ผ่านมา กับกรณีจ่าทหารคลั่ง กราดยิงเพื่อนร่วมงานเสียชีวิต 2 ศพ ภายในวิทยาลัยการทัพบก เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

จำได้ว่าเมื่อครั้งที่เกิดเหตุจ่าทหารคลั่งยิงเพื่อนร่วมงาน เราได้ตีตรงจุดเกี่ยวกับสภาวะความเครียดของผู้ที่ทำงานใกล้ชิดกับอาวุธ

ข้อเสนอที่ไม่เคยถูกนำไปปฏิบัติ ไม่ว่าดีแค่ไหนก็คงไม่สามารถสกัดกั้นเหตุร้ายได้ สำคัญที่สุดจึงเป็นการตระหนักรู้ การให้ความสำคัญของหน่วยงานต้นสังกัด เพื่อดูแลบุคลากรของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ แม้ในกรณีผู้ก่อเหตุล่าสุดจะถูกไล่ออก หรือให้ออกจากราชการแล้ว แต่ถ้ามีการตรวจสอบสุขภาพจิตกันอย่างต่อเนื่องก็อาจพบความไม่ปกติด้านสภาพจิตใจ ซึ่งจะนำไปสู่การป้องกันเหตุร้ายได้

หลังเกิดโศกนาฏกรรมครั้งล่าสุดที่จังหวัดหนองบัวลำภู พลเอกประวิตร ได้กำชับหน่วยงานความมั่นคงทุกระดับคุมเข้มกำกับเจ้าหน้าที่รัฐครอบครองอาวุธ เพื่อป้องกันก่อเหตุรุนแรง 

โดยให้พิจารณาเพ่งเล็งเจ้าหน้าที่ที่มีความเครียด หรือมีอาการป่วยจากสภาวะทางจิตประสาท หรือจากปัญหายาเสพติด เพื่อแยกบำบัดรักษาและกำกับให้อยู่ในการดูแลของแพทย์จนปกติ

รวมถึงให้ความสำคัญต่อกระบวนการคัดกรองเข้ารับเข้าราชการ เรื่องประวัติบุคคล เพื่อป้องกันมิให้มีการก่อเหตุรุนแรงทางสังคม ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นอีก

มีข้อมูลจากองค์กรที่เคลื่อนไหวเกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูลอาวุธ ระบุว่า ประเทศไทย มีคนครอบครองปืนมากถึง 10.3 ล้านกระบอก เป็นอัน 13 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน แบ่งเป็นปืนมีทะเบียน 7 ล้านกระบอก ไม่มีทะเบียน 6 ล้านกระบอก และพบว่าในคนไทย 100 คน จะมี 15 คนที่ครอบครองปืน

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark