ชายชาวอิสราเอล ร้องถูกหลอกเซ็นเอกสารยอมความ

เช้านี้ที่หมอชิต - มีผู้เสียหายเป็นชายสัญชาติอิสราเอล พร้อมกับลูกสาวที่เกิดกับภรรยาชาวไทย ไปขอความช่วยเหลือทางคดีกับ ทนายษิทรา หลังมีนายทหารยศร้อยโท ก่อเหตุยิงปืนที่ร้านขายเครื่องดื่มในจังหวัดสกลนคร เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่พอไปแจ้งความกลับถูกหลอกให้เซ็นเอกสารยอมความ จนไม่สามารถดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุได้

ชายสัญชาติอิสราเอล อายุ 53 ปี พร้อมลูกสาวอายุ 15 ปี ผู้เสียหาย นำหลักฐานคลิปวิดีโอ ภาพการเข้าแจ้งความ และพยานที่เป็นพนักงานในร้านขายเครื่องดื่ม เข้าขอความช่วยเหลือทางคดีกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายษิทรา เพราะต้องการรื้อฟื้นและดำเนินคดีกับ นายทหารยศร้อยโท ที่ใช้ปืนยิงข่มขู่ตนกับลูก ๆ ในร้านขายเครื่องดื่ม จังหวัดสกลนคร ที่หลังแจ้งความกับตำรวจแล้ว กลับมาพบความจริงว่าถูกหลอกให้เซ็นเอกสารยอมความ

ชายสัญชาติอิสราเอล เปิดเผยเรื่องนี้ผ่านลูกสาว ว่าได้มาพบรัก แต่งงาน และอยู่กินกับภรรยาคนไทย เมื่อปี 2544 จนมีลูกด้วยกัน 5 คน ตอนนั้นทำธุรกิจเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์อยู่ที่เมืองพัทยา ภรรยามาขอเปิดร้านขายเครื่องดื่ม ที่บ้านเกิดในจังหวัดสกลนคร จึงให้เงินลงทุน 2 ล้านบาท

กระทั่งเมื่อ 3 - 4 ปีที่ผ่านมา มีนายทหารยศร้อยโท เข้ามาสานสัมพันธ์แบบลับ ๆ กับภรรยา ตนเองพยายามห้ามปรามไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวด้วย กระทั่งคืนวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเปิดร้านขายเครื่องดื่ม ก็มีลูกน้องในร้านเห็นชายคนนี้แอบซุ่มอยู่ ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร พร้อมกับลูกน้องอีก 1 คน จึงเดินไปบอกให้กลับบ้าน ซึ่งก็สังเกตเห็นว่าฝ่ายนายทหารมีอาการคล้ายมึนเมา ขณะกำลังหันหลังกลับก็ได้ยินเสียงปืนจากทหารคนดังกล่าว ที่ยิงลงพื้น 4 นัด และยิงไปรอบ ๆ อีก 5 นัด เคราะห์ดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร

จากนั้นจึงได้รวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.สว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร โดยมีล่ามซึ่งเป็นเพื่อนของภรรยา และนายทหารที่ก่อเหตุตามไปด้วย ก่อนที่ล่ามคนดังกล่าวจะนำเอกสารมาให้เซ็น ซึ่งมารู้ภายหลังว่าเป็นเอกสารยอมความ

ทนายษิทรา ระบุว่า จะมอบหมายให้ทีมงานพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความ ที่สภ.สว่างแดนดิน อีกครั้ง โดยคราวนี้เป็นการขอให้ตำรวจพิจารณารื้อคดีนี้ขึ้นมา เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าข่ายเป็นความผิดหลายข้อหา เช่น พยายามฆ่า, พกพาอาวุธปืนฯ, บุกรุกในยามวิกาลฯ เป็นคดีอาญาที่ไม่สามารถยอมความได้