ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

บช.น. ไม่พบ ส.ต.อ. เกี่ยวข้องยาเสพติดระหว่างปฏิบัติหน้าที่

ข่าวภาคค่ำ - กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตรวจสอบประวัติ สิบตำรวจเอก ที่ก่อเหตุกราดยิงในจังหวัดหนองบัวลำภูแล้ว ยืนยัน ไม่พบพฤติกรรมต้องสงสัยว่า เสพยาเสพติดระหว่างปฏิบัติหน้าที่ก่อนโยกย้าย ขณะที่ ป.ป.ส. มีแนวคิดแยกประเภทผู้เสพ เพื่อควบคุมผู้ที่มีอาการทางจิตเวช

โดย พลตำรวจตรี นิธิธร จินตกานนท์ รองโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่า จากการตรวจสอบช่วงที่มีการรับราชการที่ สน.ยานนาวา และ สน.ลุมพินี ไม่พบว่า ตำรวจนายดังกล่าวมีความผิดปกติใด และจากการสอบถามเพื่อนร่วมงาน รวมถึงอดีตผู้บังคับบัญชา ก็ไม่พบว่ามีพฤติการณ์ยุ่งเกี่ยวกับการใช้หรือเสพยาเสพติด ส่วนที่มีการขอโยกย้ายกลับไปทำงานที่บ้านเกิด เนื่องจากไม่สามารถเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้ และไม่ถนัดในการใช้คอมพิวเตอร์

ส่วนแนวทางการป้องกัน หลังจากนี้หากพบว่า ตำรวจนายใด มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จะไม่สามารถขอมีอาวุธส่วนตัวได้ การอนุญาตให้มีอาวุธส่วนตัว ต้องได้รับความเห็นชอบ และได้รับใบรับรองความประพฤติจากผู้บังคับบัญชาเท่านั้น นอกจากนี้จะเพิ่มความถี่ในการสุ่มตรวจสารเสพติด โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในข่ายความเสี่ยง

ขณะที่ นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยว่า กฎหมายฉบับใหม่มีรายละเอียดชัดเจน เกี่ยวกับการลงโทษทั้งผู้จำหน่ายและผู้เสพยาเสพติด ที่ไม่เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาอยู่แล้ว อีกทั้งก่อนหน้านี้ กระทรวงยุติธรรมมีแนวคิดในการแบ่งประเภทผู้เสพยาเสพติดเป็น 3 ประเภท คือ ผู้ใช้, ผู้เสพ และผู้ติด

โดย 2 ประเภทแรกควรได้รับโอกาสปรับปรุงตัว ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก ส่วนผู้ติด ควรต้องมีการจำกัดสิทธิ์ เช่นการสวมกำไลอีเอ็ม เพื่อจำกัดพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดเตรียมเสนอแก้ไขกฎหมาย ให้ผู้เสพยาเสพติดจนมีอาการทางจิตเวช ต้องแยกไปบำบัดรักษาและรับโทษ ในสถานที่ที่กำหนดที่ไม่ใช่เรือนจำ เพื่อไม่ให้ไปสร้างปัญหาต่อไป

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark