ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิต จ.หนองบัวลำภู

ข่าวสังคม 10 ตุลาคม 2565 - เช้านี้ที่หมอชิต - ความเคลื่อนไหวเหตุการณ์กราดยิงในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู เมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อให้กำลังใจญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุโศกนาฏกรรม และร่วมในพิธีสวดพระอภิธรรม

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิต จ.หนองบัวลำภู
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตำบลอุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู ครั้งที่ 2 เพื่อให้กำลังครอบครัวเหยื่อผู้เสียชีวิต จากเหตุโศกนาฏกรรมศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ 36 ครอบครัว และร่วมพิธีสวดพระอภิธรรม

หลังจากที่เดินทางไปถึง นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่วัดเทพมงคลพิชัย เป็นจุดแรก เนื่องจากเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลร่างผู้เสียชีวิต 6 ศพ จากนั้นเดินทางต่อไปวัดศรีอุทัย ตั้งบำเพ็ญกุศลผู้เสียชีวิต 11 ศพ และไปที่ อบต.อุทัยสวรรค์ ใกล้จุดที่เกิดเหตุ ก่อนจะเดินทางไป วัดราษฎร์สามัคคี สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุลผู้เสียชีวิต 19 ศพ

ซึ่งนายกรัฐมนตรี พูดคุยให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกครอบครัว ทุกจุดที่ไป และผู้สื่อข่าวของเรา ก็พยายามยื่นไมค์เพื่อบันทึกเสียงนายกรัฐมนตรี ท่านกล่าวสั้น ๆ เป็นกำลังใจให้ทุกคน ห่วงทุกคน และขอบคุณเจ้าหน้าที่ อบต.นากลาง ทุกคน

สำหรับคืนที่ 2 ในพิธีสวดพระอภิธรรม นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธี และร่วมฟังสวดพระอภิธรรม ที่วัดราษฎร์สามัคคี ส่วนพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน และร่วมฟังสวดพระอภิธรรม ที่วัดศรีอุทัย ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นประธานและร่วมฟังสวดพระอภิธรรม ที่วัดเทพมงคลพิชัย ซึ่งพิธีจัดพร้อมกันทั้ง 3 วัด

เก็บอัฐิผู้ก่อเหตุ กลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.อุดรธานี
ช่วงเช้าวานนี้ แม่และญาติผู้ก่อเหตุ ไปเก็บเถ้าอัฐิ ที่ด้านหลังเมรุวัดใหม่หนองหิน ชุมชนหนองหิน-ร่มเย็น เทศบาลเมืองหนองสำโรง ตำบลบ้านเลื่อม อำเภอเมืองอุดรธานี เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านเกิด โดยนิมนต์พระภิกษุ 2 รูป มาทำพิธีทางศาสนา เพื่อให้ไปสู่สุขติ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

นายเรืองฤทธิ์ สัปเหร่อวัด เปิดเผยว่า ทำอาชีพสัปเหร่อมา 39 ปี ที่ผ่านมา ก็เคยมีญาตินำศพมาทำพิธีฌาปนกิจแบบเร่งด่วน 1 วัน สวดพระอภิธรรม 1 คืน แต่ครั้งนี้เป็นการทำพิธีที่เร็วที่สุด เท่าที่เคยทำอาชีพสัปเหร่อมา คือ ทำพิธีฌาปนกิจเพียง 2 ชั่วโมง แต่ยืนยันว่า พิธีกรรมต่าง ๆ ครบถ้วน สิ่งไหนที่ขาดก็จะหามาทดแทน เช่น เมื่อวานนี้ หลังสวดมาติกาบังสุกุล กรวดน้ำ และต้องวางดอกไม้จันทน์ แต่หาไม่ทัน ก็ใช้ธูปวางแทน ก็ถือว่าครบถ้วนตามพิธีกรรมทางศาสนา ซึ่งวัดไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นใคร ทำพิธีฌาปนกิจเหมือนกันทุกราย

ขณะที่แม่ผู้ก่อเหตุ ยังไม่ยืนยันว่า จะไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมผู้เสียชีวิตหรือไม่ ตอนนี้ ขอกลับไปปรึกษากันก่อนว่าจะทำอย่างไรต่อไป หรือ อาจส่งตัวแทนไป เพราะลึก ๆ ก็กลัวว่าจะไม่ปลอดภัย และได้รับอันตรายจากญาติผู้สูญเสีย ที่ยังมีความโกรธแค้นสิ่งที่ลูกชายก่อเหตุไว้ก่อนจบชีวิตตัวเอง

สำหรับอัฐิ ครอบครัวจะไม่ไปลอยอังคาร แต่จะคัดแยกอัฐิส่วนที่สมบูรณ์ชำระล้าง พรมน้ำหอมโปรยดอกไม้ จุดธูปเทียนและนำเงิน 32 เหรียญ วางลงบนกองอัฐิ เพื่อให้ผู้เสียชีวิตมีครบ 32 ประการในภพภูมิหน้า

ผ่าครรภ์เหยื่อโศกนาฏกรรม จ.หนองบัวลำภู
แผนกนิติเวช โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ครอบครัว 1 ในผู้สูญเสีย ซึ่งเป็นครูที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ตำบลอุทัยสวรรค์ ที่กำลังตั้งครรภ์ 8 เดือน และมีกำหนดคลอดวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ เดินทางไปรับศพ พร้อมแจ้งแพทย์ให้ผ่าทารกในครรภ์ ตามความเชื่อ เพราะไม่อยากให้วิญญาณไปสู่ภพภูมิที่ดี ขณะที่สามี ตั้งใจอยากเห็นหน้าลูกเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย

การรับศพแม่-ลูก ครอบครัว ได้ชงนมใส่ขวด และเตรียมของใช้สำหรับทารกมาด้วย โดยแพทย์ได้ถ่ายรูปทารก หลังทำการผ่า โดยแจ้งว่า ทารกเป็นเพศชาย ทำทุกคนร้องไห้ต่อหน้ารูปศพที่สามีกอดไว้อยู่ตลอดเวลา ก่อนตั้งสติและนำชุดกีฬาและหมวก สวมให้ทารกพร้อมเรียกชื่อว่า "น้องซีวิค"

สามีผู้เสียชีวิต อธิบายว่า สาเหตุที่นำร่างภรรยามาผ่าครรภ์นำลูกออกมา เพราะเป็นประเพณีและความเชื่อของชาวบ้าน หากเสียชีวิตขณะตั้งครรภ์ ก่อนจะฌาปนกิจต้องผ่าเอาทารกออกก่อน จึงอยากทำให้ถูกต้องและสมบูรณ์ ส่วนตัวเองอยากเห็นหน้าลูก และอยากให้ลูกอยู่ในอ้อมกอดของแม่เป็นครั้งสุดท้าย

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำร่างแม่และลูกออกมาใส่โลงเดียวกัน โดยสามีสั่งเสียภรรยาเป็นครั้งสุดท้าย ให้ดูแล "น้องซีวิค" ดี ๆ ก่อนจุดธูปเรียกภรรยาและลูกกลับบ้าน เพื่อให้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ก่อนถึงวันฌาปนกิจ  

ทั้งนี้ ก่อนที่จะนำร่างครูส่งโรงพยาบาลเพื่อผ่านำลูกออกจากครรภ์ ครอบครัวมีความกังวลและทุกข์ใจ เนื่องจากไม่สามารถหารถนำร่างครูไปผ่าได้ กระทั่งผู้สื่อข่าวช่องหนึ่ง เดินทางเข้าไปเยี่ยมเยียนที่บ้าน และพูดคุยกับครอบครัว โดยสามีและแม่ ประหม่า ตื่นกลัวผู้สื่อข่าว กระทั่งมีการพูดคุยเป็นภาษาอีสาน จนเชื่อใจ ก็ได้รับคำตอบว่า ต้องการหารถนำร่างของครู ไปผ่าศพลูกออกจากครรภ์ ผู้สื่อข่าวคนนี้ก็ช่วยประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยที่จังหวัดอุดรธานี ทันที ทำให้ทั้งครอบครัว มีสีหน้ายิ้มแย้มและขอบคุณผู้สื่อข่าวอย่างมาก 

นอกจากนี้ ตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่ และชาวบ้าน ช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อสร้างเตาเผาศพชั่วคราวสำหรับผู้เสียชีวิต และจเตรียมสถานที่ ที่จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในวันพรุ่งนี้ (11 ต.ค.) ซึ่งทั้ง 3 วัด จะประกอบพิธีพร้อมกันเวลา 16:00 น. ส่วนวันนี้ 08:00 น. เจ้าหน้าที่ และชาวบ้าน จะช่วยกันก่อเชิงตะกอน เพื่อทำเตาเผาศพช่วงคราว ก่อนถึงพิธีพระราชทานเพลิงศพ

ส่วนที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ ชาวบ้าน ครอบครัวเด็ก ๆ ครู และเจ้าหน้าที่ อบต. ที่เสียชีวิต ได้นิมนต์ พระ มาทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณผู้เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้า โดยบรรดาญาติ ๆ  ที่ต่าง "เรียกขวัญ" หรือ พูดเป็นภาษาอีสานว่า "เอิ้นขวัญ" ได้นำดอกไม้ธูปเทียน อาหารคาวหวาน มาบูชา จากนั้นพระก็สวดมนต์ส่งวิญญาณผู้ที่เสียชีวิตอยู่บริเวณศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งนี้ กลับไปสู่บ้านเกิด และยังเป็นการเรียกขวัญญาติ ๆ ผู้เสียชีวิตให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว ตามประเพณีความเชื่อของชาวอีสาน

ซึ่งทีมข่าวของเรา บอกว่าระหว่างทำพิธีอยู่ จู่ ๆ สายฝนก็โปรยปรายลงมา แต่พอเสร็จพิธี ฝนก็หยุดตก

นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ เล่าให้ทีมข่าวของเรา ฟังว่า ตั้งแต่เกิดเหตุ ได้สั่งให้ปิดกั้นพื้นที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ และสั่งห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ ส่วนหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ ได้เปิดให้ประชาชน มาแสดงความอาลัย กับการจากไปของผู้เสียชีวิต พร้อมเปิดศูนย์รับบริจาคเงินทุน และสิ่งของไว้มอบให้ญาติผู้เสียชีวิตด้วย

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark