เรือยาวเสียหลักชนตอม่อล่มกลางแม่น้ำชี ฝีพายจมหาย 3 คน จ.มหาสารคาม

เช้านี้ที่หมอชิต - เกิดเหตุสลดระหว่างการแข่งขันเรือยาวในงานประเพณี ที่จังหวัดมหาสารคาม เมื่อเรือของผู้เข้าแข่งขันลำหนึ่ง เกิดไปชนเข้ากับตอม่อสะพาน ก่อนล่มกลางแม่น้ำชี ท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ทำให้มีฝีพายสูญหายจำนวน 3 คน

นี่เป็นภาพเหตุการณ์ระทึก ระหว่างการแข่งขันเรือยาว นัดชิงชนะเลิศ ในงานประเพณีแข่งเรือยาวไหลเรือไฟออกพรรษา ที่วัดท่าตูมวารินทร์ บ้านท่าตูม อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม เมื่อจู่ ๆ เรือยาวของทีมอินทร์แปลง เกิดไปชนเข้ากับตอม่อสะพาน ก่อนเรือจะล่มกลางแม่น้ำชี ทำให้ฝีพายสูญหายและได้รับบาดเจ็บ

ซึ่งขณะเกิดเหตุเป็นการแข่งขันชิงที่ 3 ระหว่างเรือเทพธิดาวารินทร์ จังหวัดกาฬสินธุ์ กับ เรืออินทร์แปลง จากจังหวัดเดียวกัน โดยเป็นเรือยาวขนาด 40 ฝีพาย ซึ่งขณะแข่งขันกระแสน้ำได้ไหลเชี่ยว และเป็นจังหวะเดียวกับที่เรือของทีมอินทร์แปลงกำลังจะเข้าเส้นชัย แต่หัวเรือกลับหันเข้าไปที่ตอม่อสะพาน ทำให้นายท้ายงัดเรือหลบไม่ทัน ก่อนที่เรือจะชนเข้ากับต่อม่อสะพานและล่มกลางแม่น้ำชี ฝีพายต่างพากันกระโดดน้ำหนีเอาตัวรอด บางส่วนก็เกาะเรือไว้ รอให้อาสากู้ภัยทางน้ำและเรือที่ร่วมแข่งขันเข้ามาช่วยเหลือ โดยหลังเกิดเหตุพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 คน และมีผู้สูญหายอีก 3 คน คือ นายอนุพงษ์ อายุ 30 ปี / นายบัณฑิต อายุ 39 ปี และนายสุนันต์ อายุ 24 ปี / ด้านครอบครัวของผู้ที่สูญหาย หลังทราบข่าวต่างพากันเดินทางมายังที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด นั่งร้องไห้ภาวนาขอให้คนที่รักกลับมาอย่างปลอดภัย

พ่อบุญธรรมของนายอนุพงษ์ หนึ่งในผู้สูญหาย บอกว่า พ่อของนายอนุพงษ์ได้โทรมาเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง จึงรีบขับรถมาที่เกิดเหตุ ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีแรกที่จัดการแข่งขันหลังไม่ได้จัดมานาน 3 ปี เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ส่วนลูกชายก็ทำอาชีพค้าขายกับตน ก่อนเกิดเหตุลูกชายได้บอกก่อนจะมาแข่งว่าให้เขารักษาเนื้อรักษาตัว พูดเหมือนเป็นลางและขอแข่งเป็นครั้งสุดท้าย เนื่องจากฝีพายไม่ครบ ซึ่งรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและอยากให้เจ้าหน้าที่เจอลูกไว ๆ

จากการสอบถามหนึ่งในฝีพายที่รอดชีวิต เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุกระแสน้ำไหลเชี่ยว เบี่ยงเรือไปทางริมฝั่ง ไม่ไปตามแนวที่เรือตั้งใจพาย พร้อมกับบังคับเรือไม่อยู่ จนเรือไปชนเข้ากับตอม่อสะพาน ซึ่งขณะนั้นไม่มีใครสวมเสื้อชูชีพ พอขึ้นเรือได้ ก็รีบโยนเสื้อชูชีพให้คนที่ว่ายน้ำไม่เป็น ส่วนผู้ที่ว่ายน้ำเป็น อาจจะเจอกระแสน้ำที่ไหลแรงมากกว่าทุกปี จนหมดแรงและจมหายดังกล่าว

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุอาสากู้ภัยและนักประดาน้ำ ต่างเร่งทำการค้นหา แต่การค้นหาต้องยุติชั่วคราว เนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว บวกกับไฟฟ้าส่องสว่างไม่เพียงพอ ก่อนจะเริ่มค้นหาใหม่อีกครั้งในช่วงเช้าของวันนี้ (10 ต.ค.65)