ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

พ่อค้าขายหมูปิ้งยืนยัน ชายฉกรรจ์ที่ถูกจับกุมเป็นมาเฟีย แต่ ตร.ยันไม่ใช่มาเฟีย

ข่าวอาชญากรรม 10 ตุลาคม 2565 - สนามข่าว 7 สี - หลังจากที่ตำรวจจับกุมตัวมาเฟียย่านสุขุมวิท 4 คน ที่ไปข่มขู่พ่อค้าแม่ค้าเรียกค่าคุ้มครอง แถมยังใช้อาวุธปืนยิงใส่พ่อค้าหมูปิ้งแต่เคราะห์ดีกระสุนขัดลำกล้อง และผู้ต้องหาอ้างว่าไม่ได้เป็นมาเฟียนั้น พ่อค้าหมูปิ้งออกมายืนยันว่า ค้าขายตรงนี้มา 10 ปี ทุกคนรู้จักกันดีว่า ชายกลุ่มนี้เป็นมาเฟียเรียกค่าคุ้มครอบในย่านนี้ 

ความคืบหน้ากรณีที่กลุ่มชายฉกรรจ์บุกรุมทำร้าย นายวิระบูรณ์ พ่อค้าขายหมูปิ้ง จนได้รับบาดเจ็บ พ่อค้าแม่ค้าต่างมาช่วยห้าม โดนลูกหลงช่วงชุลมุนกันไปตาม ๆ กัน แต่ที่อุกอาจคือมีการใช้อาวุธปืนยิงใส่พ่อค้าแม่ค้าด้วย แต่กระสุนขัดลำกล้อง รอดตายมาได้อย่างปาฏิหาริย์ เหตุเกิดบริเวณริมถนนดวงพิทักษ์ตัดสุขุมวิท แขวงและเขตคลองเตย กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ที่ผ่านมา ก่อนที่ตำรวจจะไปจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 4 คน คือ นายวิโรจน์, นายณัฐวุฒิ, นายชูเดช และนายสุรัตน์ชัย

ต่อมา พลตำรวจตรี จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ไปติดตามคดี ระบุว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหา ยังไม่พบว่ามีพฤติกรรมเป็นมาเฟียคุมพื้นที่ดังกล่าว แต่ได้ให้ตำรวจไปป้องปรามไม่ให้มีการรวมกลุ่มตั้งเป็นแก๊งมาเฟียสร้างความเดือดร้อนกับประชาชน ซึ่งหากพบก็จะดำเนินคดีทั้งหมด

ส่วนที่ผู้เสียหายระบุว่า มีผู้ก่อเหตุ 6-7 คน ที่ร่วมก่อเหตุและปรากฎในคลิปเหตุการณ์นั้น อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า, ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ซ่องโจร และข้อหาตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน โดยในวันนี้จะนำตัวทั้งหมดไปฝากขัง พร้อมกับคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าอาจจะไปข่มขู่ หรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

จากประวัติของผู้ต้องหา พบว่าเคยถูกดำเนินคดี 3 คน คือ นายวิโรจน์ เคยถูกดำเนินคดีพกพาวุธมีด ปี 2558 และคดีจำหน่ายสินค้าปลอม ปี 2554 นายณัฐวุฒิ เคยต้องคดีทำร้ายร่างกาย ปี 2555 และคดีจำหน่ายสินค้าปลอม ปี 2555 และนายสุรัตน์ เคยต้องคดีครอบครองพืชกระท่อม ปี 2561

ส่วนที่ก่อนหน้านี้ หนึ่งในผู้ต้องหาอ้างว่า ก่อนสถานการณ์โควิด-19 เคยขายของอยู่ตรงนี้ และถูกผู้เสียหายมาแย่งที่ทำกิน จึงเข้าไปพุดคุยให้ย้ายออกไปตามที่ปรากฎในคลิปนั้น

ทีมข่าวได้ไปพูดคุยกับผู้เสียหายที่บ้านพักพบว่า ครอบครัวนี้มีด้วยกันหลายคน ในนั้นมีลูกสาวที่พิการทางสมอง ที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเองขายหมูปิ้งอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2554 กว่า 10 ปีแล้ว พ่อค้าแม่ค้าในละแวกนั้นต่างก็รู้ดี แต่จู่ ๆ กลุ่มมาเฟียดังกล่าวก็ให้คนมาขายของในพื้นที่เดียวกัน พร้อมกับมาข่มขู่จะยึดพื้นที่เพื่อทำเอง ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าในย่านนั้นก็รู้จักว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุนั้นเป็นมาเฟียคุมสถานบันเทิงในสุขุมวิทซอย 4 คอยเรียกเก็บค่าคุ้มครองกับสถานบันเทิงและพ่อค้าแม่ค้าแผงลอยมานาน คำให้การของผู้ก่อเหตุว่าเป็นพ่อค้าที่ถูกตนเองแย่งพื้นที่ทำกินนั้น จึงไม่เป็นความจริง เพราะแต่ละคนนั้นมีเงิน และใช้เสื้อผ้าแบรนด์เนมมียี่ห้อทั้งนั้น ไม่เหมือนกับตนซึ่งเป็นคนหาเช้ากินค่ำ

แต่ที่ต้องลุกขึ้นมาสู้กับความอยุติธรรม ก็เพื่อปากท้องของตนเอง ที่ต้องหาเลี้ยงครอบครัว และมีลูกพิการ 1 คน ที่ต้องดูแลด้วย ซึ่งการที่ตนเองรอดจากคมกระสุนปืนของผู้ก่อเหตุมาได้นั้น มีความเชื่อว่าอาจมาจากปาฏิหาริย์ของตะกรุดโทนผงพอกยา หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จังหวัดระยอง ที่ห้อยติดตัวไว้ตลอดเวลา

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark