ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

หญิงอายุ 44 ปี แจ้งจับเจ้าหนี้สุดแสบ บุกงัดบ้านยึดตู้เย็น จ.ระยอง

เช้านี้ที่หมอชิต - เจ้าหนี้ในพื้นที่จังหวัดระยอง เหิมเกริม คงนึกว่าตัวเองเป็นเจ้าชีวิตลูกหนี้ ส่งข้อความด่าระรานไม่เลิก แถมยังบุกไปงัดบ้านของลูกหนี้พังเสียหายไม่พอ ยังยึดตู้เย็นไปอีกด้วย

เรื่องนี้ถูกเปิดเผยโดยหญิงอายุ 44 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า เธอกลับมาบ้านในช่วง 20.00 น.ของวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา พบความผิดปกติ นั่นก็คือสายไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิดอยู่ในสภาพชำรุด ลักษณะเหมือนมีคนมาดึงสายไฟฟ้าออกขั้วต่อกล้องวงจรปิด

และเมื่อตรวจสอบทรัพย์สินอย่างละเอียด พบตู้เย็น ราคา 14,000 บาท สูญหายไป โดยเธอสงสัยว่าน่าจะเป็นฝีมือของหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ ที่เคยไปกู้ยืมเงินมาก่อนหน้านี้ จำนวน 13,000 บาท หลังจากที่เธอได้เงินมา แล้วปรากฏว่าโทรศัพท์มือถือของเธอพังเสียหาย ทำให้ไม่สามารถติดต่อใครได้ ประกอบกับช่วงนั้นเธอล้มป่วยด้วย จึงไปปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งหนึ่งอยู่ในอำเภอแกลง ทำให้เจ้าหนี้ติดต่อเธอไม่ได้

ต่อจากนั้นก็มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งส่งข้อความเชิงข่มขู่ และด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายแบบเสีย ๆ หาย ๆ มาหาเธอ ในกล่องข้อความเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม ทำให้หญิงผู้เสียหายเกิดความกลัว และรู้สึกไม่ปลอดภัย

นอกจากนี้หญิงอายุ 44 ปี ยังเล่าให้ทีมข่าวฟังอีกว่า หลังปฏิบัติธรรมเสร็จกลับมา เข้าไปในบ้านพบความผิดปกติ คือ ตู้เย็นสูญหายไป ส่วนของกินต่าง ๆ ที่ใส่แช่ไว้ในตู้เย็น ถูกนำออกวางกองไว้บนโต๊ะ โดยตอนนั้นเธอคิดว่าลูกของเธอนำมาวาง กระทั่งเดินตรวจสอบภายในบ้าน เห็นสายไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกล้องวงจรปิดอยู่ในลักษณะสายหลุดจากขั้วต่อกล้องวงจรปิด จึงโทรศัพท์ไปสอบถามลูกว่า "ทำไมมาเอาตู้เย็นออกจากบ้านไปใช้ ถึงต้องดึงสายกล้องวงจรปิดออกด้วย ซึ่งลูกของเธอก็บอกว่าไม่ได้เอาไป"

ด้วยความสงสัยต่อจากนั้น เธอจึงโทรศัพท์ไปหาน้องสะใภ้ ก็ได้รับคำตอบว่า "มีคนมาจากตัวเมืองระยอง ขับรถกระบะแบบ 4 ประตู สีดำ จำหมายเลขทะเบียนรถไม่ได้ ขับรถมาถามหาเธอ โดยแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหนี้และบอกว่าจะมาเอาของ ซึ่งตอนนั้นเจอแม่กับน้องชาย บอกไปว่า "อยู่คนละหลังกัน จะทำอะไรก็ทำไปเถอะ" จากนั้นบุคคลที่แสดงตัวเจ้าหนี้ ก็มาที่บ้านของเธอ ถือวิสาสะงัดบ้าน แล้วปีนเข้าไปในบ้าน ยกเอาตู้เย็นขึ้นรถขับออกไป

หลังเกิดเรื่องหญิงอายุ 44 ปี ตัดสินใจเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.แกลง เพื่อให้ตำรวจติดตามเจ้าหนี้คนนี้มาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยไม่มีการยอมความใด ๆ ทั้งสิ้น

ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างประสานบุคคล หรือเจ้าหนี้ ตามที่หญิงผู้เสียหายอ้างถึงมาสอบสวน ทำให้เบื้องต้นยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาเอาผิดใครทั้งสิ้น ซึ่งถ้าตำรวจสอบสวนแล้ว พบบุคคลดังกล่าวได้กระทำความผิดจริงตามที่ผู้เสียหายแจ้งความไว้ จะต้องถูกดำเนินคดี จะถูกแจ้งข้อกล่าวหาบุกรุก, ลักทรัพย์ และทำลายทรัพย์สินของผู้อื่นจนได้รับความเสียหาย

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark