งดงาม อลังการรำบูชาพระธาตุพนม ในวันออกพรรษา จ.นครพนม

เช้านี้ที่หมอชิต - ชาวนครพนมและจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงพี่น้องจาก สปป.ลาว ต่างพากันแห่มาชื่นชมความอลังการในพิธีศักดิ์สิทธิ์โบราณ รำบูชาพระธาตุพนม เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาพระอุรังคะธาตุ และถวายองค์พญานาค เนื่องในวันออกพรรษาขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ส่งผลสะพัดเม็ดเงินในภาคธุรกิจท่องเที่ยว

จัดกันอย่างยิ่งใหญ่อลังการคุณผู้ชม กับพิธีศักดิ์สิทธิ์โบราณ รำบูชาพระธาตุพนม ซึ่งสืบทอดวิถีวัฒนธรรมกันมายาวนานกว่า 35 ปี เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาพระอุรังคะธาตุ หรือกระดูกส่วนหน้าอกของพระพุทธเจ้าที่มีอายุเก่าแก่กว่า 2,500 ปี และถวายองค์พญานาค รวมถึงยังมีการจัดประกวดไหลเรือไฟ กลางลำน้ำโขง เนื่องในวันออกพรรษาประจำปี 2565

การแสดงงดงามมีทั้งหมด 6 ชุด ทั้งชุดรำตำนานพระธาตุพนม ซึ่งบอกเล่าถึงประวัติความเป็นมา และแรงศรัทธาความเชื่อเกี่ยวกับองค์พระธาตุพนม การฟ้อนศรีโคตรบูรณ์ ที่มุ่งรำลึกถึงความเจริญทางด้านศิลปวัฒนธรรมของอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างรำเซิ้งอีสาน ที่มีความสนุกสนานบวกกับการฟ้อนรำผู้ไทย นอกจากนี้ยังมีชุดการรำพิเศษ ที่รวมเพลงอีสานบ้านเฮา เปิดโอกาสให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ได้ร่วมรำถวายต่อองค์พระธาตุพนม เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต

ทั้งนี้ การรำบูชาพระธาตุพนม ถือเป็นเอกลักษณ์ประเพณีวัฒนธรรมของแต่ละชนเผ่าในพื้นที่ 12 อำเภอ นำมาจัดแสดงให้ทุกคนได้รับชม ในทุกปีช่วงวันออกพรรษา เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ให้ฟื้นคืนกลับมา หลังเจอพิษโควิด-19  
 
และเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (10 ต.ค.) นักท่องเที่ยวชาวไทย และสปป.ลาว นับแสนคน เดินทางแห่ไปชมงานประเพณีไหลเรือไฟจังหวัดนครพนม ประจำปี 2565 ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งในปีนี้มีเรือไฟจำนวน 12 ลำ มาจาก 12 อำเภอ ประดับด้วยตะเกียงเกือบ 30,000 ดวง มีชาวบ้านเป็นผู้สร้างสรรค์โดยใช้เวลานานนับเดือน ได้มีการออกแบบลวดลายให้เป็นเอกลักษณ์และอัตลักษณ์เฉพาะตัว ที่สอดแทรกเรื่องราวของวิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรม และความเชื่อของคนในท้องถิ่นเอาไว้ รวมถึงการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว ที่มารอชม คาดปีนี้ จะมีเงินสะพัดในจังหวัดนครพนม นับ 100 ล้านบาท ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่