ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

เตือนลมหนาวมา ระวังป่วย ไข้รากสาดใหญ่ เสี่ยงติดเชื้อและเสียชีวิต จ.เชียงใหม่

เช้านี้ที่หมอชิต - อีกไม่กี่วันก็เข้าสู่หน้าหนาวแล้ว แพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เตือนนักท่องเที่ยว หรือสายตั้งแคมป์ระวังไข้ "รากสาดใหญ่" อาจส่งผลถึงชีวิตได้

นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตอนนี้อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ ประชาชนมักเดินทางท่องเที่ยวตามป่าเขาและกางเต็นท์ เพื่อสัมผัสอากาศหนาว ซึ่งเสี่ยงติดเชื้อแบคทีเรีย Orientia tsutsugamushi (โอเรียนเทีย ซูซูกามูชิ) โดยสาเหตุเกิดจากการถูกตัวไรอ่อนที่อาศัยอยู่ตามใบไม้ใบหญ้าใกล้กับพื้นดินที่มีความชื้น แต่ไม่เปียกแฉะ หรือ เกาะติดไปตามเสื้อผ้าของคน และกัดผิวหนัง เช่น รักแร้ ขาหนีบ และรอบเอว หลังถูกกัดไปประมาณ 10-12 วัน จะมีอาการ ปวดศีรษะ มีไข้ หนาวสั่น ไอ ตาแดง คลื่นไส้อาเจียน ปวดเมื่อยตัว อ่อนเพลีย มีผื่นแดงขนาดเล็ก หรืออาจจะพบแผลคล้ายบุหรี่จี้ แต่จะไม่ปวดและไม่คัน ผู้ป่วยบางรายอาจหายได้เอง บางรายอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ได้แก่ ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองและสมองอักเสบ อาจทำให้เสียชีวิตได้ แต่จากการเฝ้าระวังของกลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ สถานการณ์ "โรคไข้รากสาดใหญ่" หรือ "โรคสครับไทฟัส" (Scrub typhus) ในปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 10 ตุลาคม 2565 มีผู้ป่วยแล้ว จำนวน 652 คน แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต

จึงอยากเตือนนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวตั้งแคมป์ กางเต็นท์ นอนในป่า หรือไปในพื้นที่เกษตรกรรม ควรสวมเสื้อผ้าให้มิดชิด หรือสวมเสื้อผ้าที่มีสารป้องกันแมลง และทายากันยุง สม่ำเสมอ ซึ่งสามารถป้องกันตัวไรอ่อนกัดได้ และหลีกเลี่ยงการเข้าไปในบริเวณที่มีตัวไรอ่อนชุกชุม เช่นป่าโปร่ง ป่าละเมาะ บริเวณที่มีการปลูกป่าใหม่ ตั้งรกรากใหม่ ทุ่งหญ้า ชายป่า ต้นไม้ใหญ่ที่แสงแดดส่องไม่ถึง หรือพื้นที่เกษตรกรรม เพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการสัมผัสโรค หลังออกจากพื้นที่เสี่ยง รีบอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย และนำเสื้อผ้าไปซักให้สะอาด หากทำครบทุกขั้นตอนแล้ว แต่ยังมีอาการที่กล่าวมา ให้รีบไปพบแพทย์ และแจ้งประวัติการเข้าป่า เพื่อจะได้รักษาอย่างถูกวิธีและตรงจุด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark