วินรถ จยย.ร้องถูกวัยรุ่นนับสิบ รุมทำร้ายร่างกาย ต้องแกล้งตายจึงมีชีวิตรอด

เจาะประเด็นข่าว 7HD - เมื่อวานนี้เพิ่งเสนอข่าวชาย อายุ 17 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่นนับสิบคนรุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส วันนี้ก็มีอีกเป็นวินขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างในซอยตากสิน 21 เขตธนบุรี ถูกกลุ่มวัยรุ่นนับสิบคนรุมทำร้ายร่างกายถึง 2 ครั้ง จนต้องแกล้งตายจึงเอาชีวิตรอดได้ 

เป็นภาพวงจรปิดที่เพจสายไหมต้องรอดโพสต์ เป็นภาพขณะที่กลุ่มวัยรุ่นนับสิบคน ขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปจอดบริเวณวินจักรยานยนนต์รับจ้างในซอยตากสิน 21 เขตธนบุรี กรุงเทพฯ แล้วตรงเข้าไปรุมทำร้ายร่างกายชายอายุประมาณ 40 ปี อาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง จนได้รับบาดเจ็บ อ้างว่าชายคนที่ถูกทำร้ายไปมองหน้าหาเรื่องตอนขี่รถจักรยานยนต์ผ่าน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา

เรื่องไม่จบแค่นี้ ต่อมาวันที่ 13 ตุลาคม 2565 วัยรุ่นกลุ่มนี้ยังใช้นกต่อ ทำทีมาเรียกรถที่วิน ให้คนเจ็บไปส่งที่ซอยตากสิน แต่พอไปถึงกลุ่มวัยรุ่นที่รออยู่ ก็มารุมทำร้ายร่างกาย คราวนี้ใช้ทั้งมีด ทั้งไม้ จนชายผผู้บาดเจ็บต้องแกล้งทำเป็นตาย กลุ่มวัยรุ่นถึงได้หยุดตี บาดเจ็บศีรษะแตก แขนซ้ายหัก ช้ำไปทั้งตัว ตอนนี้ผู้เสียหายไม่กล้าออกไปไหน กลัวถ้าเจอกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้อีก น่าจะไม่รอด

ล่าสุด ผู้เสียหายคนดังกล่าว คือ นายฉัตรชัย อายุ 45 ปี เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอด พร้อมกับชี้ให้ดูถึงบาดแผลที่ได้รับ คือ แขนซ้ายหัก 2 ท่อน ต้องเข้าเฝือก ศีรษะ ใบหน้าบูมบวม และมีรอยแตกต้องเย็บ 5 เข็ม

ผู้เสียหาย เชื่อว่าทั้ง 2 เหตุการณ์ น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน ยืนยันว่าไม่เคยรู้จัก หรือ เห็นหน้ากลุ่มผู้ก่อเหตุมาก่อน และไม่เคยพัวพันกับสิ่งผิดกฎหมาย ยาเสพติด หรือ บ่อนการพนัน ตลอดจนไม่เคยเป็นสายให้กับตำรวจ จึงไม่ทราบสาเหตุที่ถูกทำร้าย

ซึ่งทั้ง 2 ครั้ง ได้ไปแจ้งความไว้กับตำรวจ สน.สำเหร่ และตำรวจ สน.บุคคโล แล้ว ทราบว่า ตำรวจอยู่ระหว่างการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด แต่คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า

ทีมข่าวลงพื้นที่ไปพูดคุยกับบิดาของ นายฉัตรชัย ยอมรับถึงพฤติกรรมของลูกชายตนเองว่า ก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องบาดหมางกับคนในชุมชน เพราะลูกชายเชื่อว่ามีคนนำข้อมูลไปใช้เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนัน หรือ เว็บผิดกฎหมาย จึงมีปากเสียงบานปลายถึงขั้นทุบรถจักรยานยนต์คู่กรณี และทำลายรถเบนซ์ของพ่อคู่กรณีด้วย แต่ก็ได้เจรจาไกล่เกลี่ยค่าเสียหายทั้งหมดแล้ว

ทีมข่าวยังได้สอบถามไปยัง พลตำรวจตรีมานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 ระุบว่า จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า นายฉัตรชัย เคยมีเหตุบาดหมางกับผู้อื่น 3 ครั้ง

ครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ไปทุบรถจักรยานยนต์ในซอยตากสิน 21 ต่อมาจึงได้ชดใช้ค่าเสียหายให้เจ้าของรถไป ต่อมาเดือนกันยายน มีเหตุทะเลาะกับผู้ดูแลลานจอดรถวัดราชวรินทร์ จนตำรวจต้องเข้าระงับเหตุ ทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ติดใจดำเนินคดีต่อกัน

จากนั้นเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565 ก็ไปเมาอาละวาดทุบรถเบนซ์ที่จอดในลานจอดรถ วัดราชวรินทร์ ก่อนจะชดใช้ค่าเสียหายให้เจ้าของรถเช่นเดิม ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าทั้ง 3 เหตุการณ์ จะเกี่ยวข้องกับการรุมทำร้ายครั้งนี้หรือไม่ แต่เบื้องต้น กลุ่มผู้ก่อเหตุรุมทำร้ายทั้ง 2 ครั้ง เป็นกลุ่มเดียวกัน ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน และประสานให้เข้ามามอบตัว หากไม่มาก็จะไปขอศาลออกหมายจับ ส่วนสาเหตุเชื่อว่า มาจากปัญหาความขัดแย้งส่วนตัวก่อนหน้านี้