ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ศรีสุวรรณ แจ้งความเอาผิดชายต่อยหน้า

เช้านี้ที่หมอชิต - ข่าวนี้เรียกว่าหลังเกิดเหตุเพียง 1 ชั่วโมงยอดการค้นหาในโซเชียล พุ่งขึ้นอันดับหนึ่งทันที เป็นข่าวของนายศรีสุวรรณ จรรยา ที่เข้าไปแจ้งความกับตำรวจ ให้เอาผิด "โน้ส อุดม แต้พานิช" กรณีทอล์กโชว์เดี่ยว 13 วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล แต่ปรากฎว่าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อมีชายอายุ 62 ปี แหวกกลุ่มนักข่าวเข้าไปต่อยหน้านายศรีสุวรรณ ที่กำลังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอยู่

เป็นภาพเหตุการณ์ขณะที่นายศรีสุวรรณ กำลังเข้าไปแจ้งความกับตำรวจที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อขอให้เอาผิดกับ "โน้ส อุดม แต้พานิช" กรณีการแสดง "เดี่ยว 13 " แต่ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไปได้ประมาณ 7 นาที จู่ ๆ ก็มีชายแต่งตัวดี ฝ่ากลางวงผู้สื่อข่าว บุกเข้ามาประชิดตัวและต่อยเข้าที่ใบหน้าหลายครั้ง จากนั้นก็เกิดการชุมมุนกันขึ้น มีผู้ช่วยของนายศรีสุวรรณ เข้าไปล็อคคอเพื่อหยุดชายคนดังกล่าว และก็เกิดการชกต่อยกันอีกคู่ ส่วนผู้สื่อข่าว ช่างภาพ และผู้ช่วยช่างภาพ ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกตะลึง เมื่อตั้งสติได้ก็พยายามช่วยกันนำตัวนายศรีสุวรรณออกมา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาห้ามปราม

หลังเหตุการณ์สงบลงชายคนที่ก่อเหตุดังกล่าว เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ตนเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง ซึ่งวันนี้ตั้งใจมาสั่งสอนนายศรีสุวรรณ ที่ชอบไปร้องเรียนคนเห็นต่างอย่างไม่มีเหตุผล มองว่าถ้าจะร้องเรียน ควรร้องให้ถูกต้อง ซึ่งตนต้องขอโทษทางตำรวจด้วยที่มาก่อเหตุที่นี่ เพราะไม่มีโอกาส และหากตนต้องถูกดำเนินคดี ตนก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการ

ส่วนนายศรีสุวรรณ หลังเกิดเหตุไม่คาดฝันก็ชู 2 นิ้ว บอกเป็นนัยยะว่ายังสู้ต่อไป แค่นี้ทนได้ และก็ยังคงทำหน้าที่เดินหน้าแจ้งความเอาผิดกับ "โน้ส อุดม แต้พานิช " ต่อ พร้อมกับลงบันทึกประจำวันกรณีที่ถูกต่อย

ก่อนออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับบาดเจ็บบริเวณปลายคาง ซึ่งเจ็บร่างกายไม่เท่าไหร่ แต่เจ็บใจมากกว่า เพราะไม่รู้จักคู่กรณีเป็นการส่วนตัว ตอนแรกคิดว่าเป็นสื่อมวลชน แต่เห็นขยับตัวเข้ามาจึงผิดสังเกต จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เชื่อว่ามีการวางแผนเตรียมการเป็นขั้นเป็นตอนมาอย่างดี คู่กรณีมีทีมไลฟ์สดถ่ายอยู่ตลอด และหลังก่อเหตุแล้วก็ยังกลับไปไลฟ์สด รวมถึงเปิดรับบริจาคด้วย เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนและจะระมัดระวังตัวมากขึ้น ไปไหนมาไหนจะต้องมีเพื่อนไปด้วย พร้อมยืนยันไม่ท้อ จะเดินหน้าร้องเรียนสิ่งต่าง ๆ ที่เห็นว่าไม่ถูกต้องต่อไป

จากนั้นก็เดินทางไปแจ้งความกับตำรวจที่ สน.พหลโยธิน เพื่อดำเนินคดีกับคู่กรณีฐานทำร้ายร่างกาย นายศรีสุวรรณยืนยันอีกว่า หากคู่กรณีจะมาขอเจรจา ก็จะไม่เจรจาด้วย และจะเอาเรื่องตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อมูลกับพนักงานสอบสวนที่รับคดี บอกว่า ต้องรอผลตรวจร่างกายอาการบาดเจ็บของนายศรีสุวรรณ มาประกอบสำนวนคดี ก่อนจะออกหมายเรียกให้คู่กรณีมารับทราบข้อกล่าวหาตามขั้นตอน ซึ่งหากเป็นการทำร้ายร่างกาย ไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 391 ระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ไม่ใช่ปรับเพียง 500 บาทตามที่สังคมเคยเข้าใจ อีกทั้งนายศรีสุวรรณไม่ยินยอมให้คู่กรณีเปรียบเทียบปรับ ให้ดำเนินคดีถึงที่สุด ก็ต้องทำสำนวนส่งฟ้องต่อศาลต่อไป

สำหรับนายศรีสุวรรณ เป็นนักร้อง หมายถึงชอบไปร้องเรียนเรื่องต่าง ๆ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะส่วนงานต่าง ๆ ของตำรวจให้ดำเนินคดี มีทั้งดารา นักแสดง และนักร้อง เพื่อเอาผิดโดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล และหมิ่นสถาบันเบื้องสูง บางครั้งก็สร้างความไม่พอใจให้กับคนหลาย ๆ คน แต่สุดท้ายนายศรีสุวรรณ ก็ยังคงเดินหน้าเป็นนักร้องอยู่เช่นเดิม

คราวนี้หันมาดูวีรกรรมของชายคนที่ต่อยนายศรีสุวรรณบ้าง ทราบว่า มีอาชีพเป็นดีไซเนอร์และเป็นผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง อายุ 62 ปี เมื่อตุลาคม 2564 เคยไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มแรงงานที่เดือดร้อนจากโรงงานผลิตชุดชั้นในปิดตัวที่ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล

ต่อมามีการเชิญแกนนำมาพูดคุยที่ตึก กพร. ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ระหว่างเดินออกจากตึก ได้ไปยืนรอ "แรมโบ้อีสาน " หรือนายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี พอเจอตัวได้ใช้มือตบไปที่หลัง 1 ที ศีรษะ 1 ที และชกไปที่หน้าอกอีก 1 ที ก่อนจะไปรวมกลุ่มกับผู้ชุมนุม นอกจากนี้ยังเคยถูกฟ้องในคดีร่วมชุมนุมทางการเมือง 21 ตุลาคม 2563 แต่ศาลแขวงดุสิต ยกฟ้อง

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark