คลี่ปมหนุ่มชาวรัสเซียหนีออกจาก รพ. กลายเป็นศพ [เจาะเกาะติด]

ประเด็นเด็ด 7 สี - ตามคืบหน้าเหตุนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเสียชีวิต สภาพศพเหลือเพียงแค่โครงกระดูกที่เกาะพะงัน ล่าสุดผลชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตออกแล้ว พบว่าไม่ใช่การฆาตกรรม ไปติดตามรายงานจาก คุณมะลิ แซ่ฉิ่น

ภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาล เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2565 เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่า นายนิกิต้า เกรกอ เยฟ อายุ 30 ปี สัญชาติรัสเซีย เข้ารับการตรวจร่างกายเนื่องจากนอนไม่หลับ 3 วันติดกัน และเขาก็ปฏิเสธการรักษาต่อ แม้แพทย์จะลงความเห็นให้อยู่ดูอาการ โดยเดินทางไปที่เชิงเขาขี้แรด ในเกาะพะงัน ก่อนหายตัวไป กระทั่ง 15 กันยายน 2565 เพื่อนนายนิกิต้า ได้เข้าแจ้งความเพื่อให้ช่วยติดตามหาตัว

จากการสอบสวน พบว่า นายนิกิต้า ผู้ตาย ได้เดินทางเข้ามายังประเทศไทยผ่านทางสนามบินนานาชาติภูเก็ต เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2565 พร้อมเพื่อน กระทั่งครบกำหนดผู้ตายได้ขอต่อวีซ่า ส่วนเพื่อนเดินทางกลับไปก่อน ต่อมา นายนิกิต้า ได้เจอกับเพื่อนอีกคนที่เดินทางมาท่องเที่ยว จึงได้นัดแนะกัน แต่เพื่อนเห็นอาการไม่ดีจึงพาตัวมารักษาที่โรงพยาบาลก่อนหายตัวไป

ส่วนคนในพื้นที่ ยืนยัน เห็นผู้ตายเดินอยู่ในซอยเขาขี้แรด และเข้าไปในป่าละเมาะ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ผู้ตายออกมาจากโรงพยาบาล เช่นเดียวกับชายอีกคนยืนยันตรงกันว่า เห็นผู้ตายใช้มือถูกับลวดหนาม จนเป็นแผลเลือดอาบก่อนหายไป

หลังหายตัวไปทุกฝ่ายได้ระดมกำลังช่วยกันออกตามหา ตามสถานที่ท่องเที่ยว กระทั่ง 12 ตุลาคม 2565 มีคนพบโครงกระดูก สภาพแห้งกรังแต่ยังสวมเสื้อผ้า ซึ่งตรงกับภาพถ่ายในกล้องวงจรปิด จึงแจ้งตำรวจให้เข้าตรวจสอบ และพบบริเวณไหล่ซ้าย มีเหล็กดามกระดูก เมื่อเพื่อนผู้ตายเห็น ยืนยันว่าเป็นเพื่อนที่หายตัวไปกว่า 29 วัน

คดีนี้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าไม่มีความซับซ้อนและเป็นการเสียชีวิตโดยตัวเองไม่มีการฆาตกรรม เพราะผลการชันสูตรชี้ชัด และไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย

ด้านผู้ช่วยทูตตำรวจ จากประเทศรัสเซีย ยืนยันไม่ติดใจเรื่องสาเหตุการตาย พร้อมชื่นชมตำรวจไทย ทำงานได้รวดเร็ว และยังฝากให้ดูแลคดีที่เกี่ยวข้องกับชาวรัสเซีย ซึ่งพบว่าปัจจุบันเข้ามาในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาคแปดมากขึ้น

เป็นอีกคดีที่ตำรวจสามารถสรุปสำนวนสอบสวนและคลี่คลายคดีการเสียชีวิตปริศนา ของนักท่องเที่ยวต่างชาติได้อย่างรวดเร็ว จนสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นในพื้นที่ท่องเที่ยว สอดรับกับปัจจุบันที่ประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานีและภูเก็ต มีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเดินทางมาท่องเที่ยวและลงทุนอย่างไม่ขาดสาย