ตำรวจบุกจับ ลุงศักดิ์ คดีทำร้าย แรมโบ้อีสาน
เช้านี้ที่หมอชิต - ยังไม่ทันจะเข้ามอบตัวคดีที่ไปชกต่อยกับ นายศรีสุวรรณ ที่หน้าศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง "ลุงศักดิ์" หรือ นายวีรวิชญ์ ก็ถูกตำรวจกองปราบฯ นำหมายศาลคดีค้างเก่าที่เคยทำร้าย "แรมโบ้ อีสาน" ไปจับกุมตัวมาดำเนินคดีเสียก่อน
นายวีรวิชญ์ อายุ 62 ปี หรือ ลุงศักดิ์ ผู้ก่อเหตุบุกทำร้าย นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ที่หน้าศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อไม่กี่วันก่อน ที่เดิมตั้งใจว่าหลังไปให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์แล้ว จะไปมอบตัวกับตำรวจในช่วงบ่าย แต่สุดท้ายไม่ทันไปมอบตัว ก็ถูกตำรวจกองบังคับการปราบปราม นำหมายศาลแขวงดุสิต ที่เคยออกหมายจับไว้เมื่อปี 2564 คดีทำร้ายร่างกาย นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี บริเวณหน้าตึก กพร. ไปจับกุมตัวมาดำเนินคดีเสียก่อน
ทันทีที่มาถึง ตำรวจได้คุมตัว ลุงศักดิ์ ขึ้นไปด้านบนชั้น 2 เพื่อทำการสอบปากคำทันที โดย ลุงศักดิ์ มีสีหน้ายิ้มแย้ม โบกมือทักทายสื่อมวลชน และเพื่อนยูทูบเบอร์ที่มารอให้กำลังใจ พร้อมกับตอบสั้น ๆ ว่า "โอเค เจ้าหน้าที่เขาทำตามหน้าที่" ก่อนจะพาตัว ลุงศักดิ์ ออกไปทางด้านหลังอาคาร ไปส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต รับตัวไปดำเนินคดี
ซึ่งระหว่างนั้นก็มีผู้ติดตามของลุงศักดิ์ ตะโกนด่าทอตำรวจที่หน้าอาคาร เพราะมองว่าเจ้าหน้าที่กระทำเกินกว่าเหตุด้วย
หลังยื่นประกันตัวโดยวางเงินประกัน 40,000 บาท พนักงานสอบสวนได้นัดให้มาพบอีกครั้งในวันที่ 25 ตุลาคม ก่อนจะออกมา ยืนยันว่า ไม่เคยได้รับหมายเรียกในคดีนี้มาก่อน และก็เพิ่งทราบว่ามีหมายจับคดีหมิ่นประมาทที่ สภ.อ่าวนาง จังหวัดกระบี่ เมื่อปี 2564 ด้วย ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้รายละเอียด รู้แค่ว่าต้องไปพบพนักงานสอบสวนที่จังหวัดกระบี่ เชื่อว่าเรื่องทั้งหมดเป็นการกลั่นแกล้ง จากเหตุที่ไปทำร้ายร่างกาย นายศรีสุวรรณ ซึ่งเรื่องนี้ก็ยอมรับว่าการกระทำของตนเองไม่เหมาะสม ไม่อยากให้ใครเลียนแบบ และไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง
ขณะที่ ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงเรื่องที่โซเชียลและสื่อบางสำนัก นำเสนอข่าวว่า ลุงศักดิ์ ได้รับเงินบริจาคไปกว่า 6.5 ล้านบาท ก็ตอบเรื่องนี้ด้วยอารมณ์ค่อนข้างฉุนเฉียว ยืนยันว่า ยอดเงินไม่ถึง 6 ล้านบาท พร้อมกับท้าให้มีการตรวจสอบ หากมียอดเงินถึง 6 ล้านจริง จะยกเงินทั้งหมดให้ ส่วนยอดเงินที่แท้จริงนั้น ตนยังไม่รู้เพราะเปิดดูไม่เป็น หากเรื่องคลี่คลายแล้วจะมาเปิดเผยอีกครั้ง
ทั้งนี้ หลังให้สัมภาษณ์ ลุงศักดิ์ ก็ได้ไปมอบตัวกับตำรวจ สน.พหลโยธิน ตามความตั้งใจ
ส่วน นายศรีสุรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย มองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน ตนเองตั้งใจจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนอาการบาดเจ็บ ใบหน้า ลำคอ และซี่โครงซ้าย ก็ระบมอยู่บ้าง
ส่วน นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่ไปยื่นหนังสือขอให้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตรวจสอบบันทึกการแสดงสด "เดี่ยว 13" ของ "โน้ส อุดม" ใน 15 หัวข้อ ว่าเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายหรือไม่ ยืนยันว่า เป็นการทำหน้าที่ตามปกติเหมือนที่ทำมาตลอด 15-16 ปี ส่วนตัวไม่ได้มีความโกรธแค้นอะไร และที่มายื่นก็ไม่ใช่การแจ้งความ เพียงแต่เห็นว่าเรื่องนี้กระทบกับสังคม ส่วนที่มีการใช้ความรุนแรงกับ นายศรีสุวรรณ ส่วนตัวไม่เห็นด้วย เพราะเชื่อว่าการใช้กำลังไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหา
ทั้งนี้ ทีมข่าวไปสังเกตเห็นว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นกับ นายศรีสุวรรณ ตำรวจก็มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดขึ้น คาดว่าเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุความไม่เรียบร้อยขึ้นอีก
