ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ชี้ทางรอดเจ้าของปลากระชังน็อกน้ำตายเกลื่อน กว่า 500 ตัน จ.กาญจนบุรี

เช้านี้ที่หมอชิต - เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดกาญจนบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชัง ริมแม่น้ำแควน้อย ที่ได้รับผลกระทบจากปลาน็อกน้ำตาย มากถึง 500 ตัน นับเป็นความเสียหายรุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี

หลังเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชัง ริมแม่น้ำแควน้อย ในพื้นที่ตำบลเขาน้อย อำเภอท่าม่วง และตำบลเกาะสำโรง อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี กว่า 150 ราย ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังปลาที่เลี้ยงไว้ในกระชังน็อกน้ำตายจำหนวนมาก จากฝนตกหนัก ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำแควน้อย เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ที่เลี้ยงปลากระชัง ในแม่น้ำแควน้อยกว่า150 ราย ได้รับความเดือดร้อน ปลาตายเฉลี่ยรายละ 5-10 ตัน รวมกันมากถึง 500 ตัน นับเป็นความเสียหายครั้งที่รุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี

ประมงจังหวัดกาญจนบุรี ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย พบว่า เกษตรกร ผู้เลี้ยงปลากระชังกว่า 10,000 กระชัง กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังปลาที่เลี้ยงไว้ในกระชังน็อกน้ำตาย มูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท นายวรรณนัท หิรัญชุฬหะ ประมงจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ทางผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี จะประกาศให้เป็นเขตภัยพิบัติทางด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และให้ผู้ใหญ่บ้านในพื้น รวบรวมรายชื่อแจ้งทาง อบต. รายงานจังหวัด เพื่อดำเนินการเยียวยาตามมาตรการต่อไป

โดยเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชัง ริมแม่น้ำแควน้อย บอกว่า ภัยธรรมชาติมีเกิดขึ้นทุกปี แต่ปีนี้นับว่ารุนแรงที่สุด โดยน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 6 เมตร ภายในคืนเดียว ทำให้ปลาน็อกน้ำตาย โดยปลาที่ตายจำนวนหนึ่งได้คัดแยก นำไปขายให้กับผู้ประกอบการ นำไปทำปลาร้าและน้ำปลา

ขณะที่เกษตรกรบอกว่า ความเสียหายมีจำนวนมาก เงินชดเชยที่ได้ไม่เพียงพอกับมูลค่าความเสียหาย อยากให้ภาครัฐเข้ามาดูแลควบคุม เรื่องค่าอาหารปลา ที่มีการปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว กว่า 20% ส่งผลกับต้นทุนในการเลี้ยง ผลกระทบที่เกิดขึ้น เกษตรกรต้องใช้เวลาการฟื้นตัวหลายปี และอาจทำให้เกษตรกรหลายราย ต้องเลิกอาชีพนี้ไปในที่สุด

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark