เอาจริง จับปรับใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ โทษสูงสุดไม่เกิน 4,000 บาท

ข่าวสังคม 20 ตุลาคม 2565 - สนามข่าว 7 สี - ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ต้องเพิ่มความระมัดระวัง เมื่อตำรวจบังคับใช้กฎหมายจราจรฉบับใหม่ ที่เอาผิดเฉพาะคนที่ใช้มือถือขณะขับขี่รถ โทษสูงสุดถึงปรับไม่เกิน 4,000 บาท

หลายคนอาจบอกว่าไม่เป็นไรตำรวจมองไม่เห็น ตอนนี้แอบกระซิบตำรวจเขาไปติดตั้งกล้องแบบใหม่ เอาไว้แล้วตามถนนเส้นต่าง ๆ ถ่ายทะลุฟิล์มเห็นชัด

พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงชี้แจงว่า ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมเป็นต้นมา พ.ร.บ.จราจรทางบกฉบับล่าสุด ได้ออกประกาศเรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการบังคับใช้โทรศัพท์มือถือของผู้ขับขี่ขณะขับรถ เนื้อหาระบุชัดเจนว่า ห้ามใช้มือจับ หรือยกขึ้นมาพูดคุยสนทนาขณะขับรถ หรือขี่รถจักรยานยนต์

หากมีความจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์มือถือ ให้ใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อแบบไร้สาย อุปกรณ์เสริม ระบบกระจายเสียง หรือ Speaker แทน

หากเป็นรถจักรยานยนต์ ต้องใช้อุปกรณ์เสริมยึดหรือติดโทรศัพท์เคลื่อนที่ไว้กับส่วนหน้าของตัวรถทุกครั้ง ก่อนการขี่รถ โดยไม่ให้บดบังวิสัยทัศน์ หรือเสียความสามารถในการขับขี่

ส่วนการแชทข้อความผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ ก็ห้ามหยิบจับโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพิมพ์ในขณะขับรถ ให้ใช้วิธีจอดข้างทางและพิมพ์ข้อความสื่อสารให้เรียบร้อยก่อนจะขับรถต่อไป

โดยกฎหมายใหม่มีการแก้ไขเพิ่มโทษปรับ จากเดิมคือ ปรับเป็นเงิน 400-1,000 บาท เป็นไม่เกิน 4,000 บาท แต่ในระยะแรกจะใช้การเตือน ก่อนจะปรับขั้นต่ำคือ 500 บาท จากนั้นจะเพิ่มขึ้นหากทำผิดซ้ำ ปรับแบบขั้นบันไดไปจนสุดที่ 4,000 บาทตามแต่ละกรณีไป

พลตำรวจตรี เอกราช ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผลวิจัยพบว่า หากมีการใช้โทรศัพท์มือถือแช็ตเพียง 5 วินาทีในความเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะทำให้ผู้ขับขี่คลาดจากการมองดูเส้นทางไปประมาณ 20 เมตรเพิ่มโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ 400 เปอร์เซ็นต์

หลังการบังคับใช้กฎหมาย ผู้ที่เดือดร้อนกับกฎหมายนี้ เห็น ๆ ก็คือกลุ่มไรเดอร์ที่รับส่งอาหาร ที่เรามักจะเห็นว่าขี่ไปดูแผนที่ไป แช็ตข้อความรับส่งอาหารขณะขี่รถ ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับไรเดอร์ที่ย่านลาดพร้าว พบว่าส่วนมากให้ความเห็นไปในทิศทางเเดียวกันว่าเห็นด้วย เพราะช่วยสร้างความปลอดภัยได้มากบนท้องถนน เพราะเคยเห็นอุบัติเหตุบนท้องถนนจากการขี่รถแบบดูมือถือบ่อยครั้ง อย่างคุณบุญมี ยารัมย์ ก็เห็นด้วยกับกฎหมายที่ออกมาเป็นอย่างมาก เพราะตนเองใช้หูฟังร่วมด้วยตลอดเวลาขี่รถจักรยานยนต์บนท้องถนน ตั้งแต่ที่เป็นไรเดอร์ช่วงแรก ๆ เพราะการใส่หูฟังก็มีเสียงจากจีพีเอสบอกเส้นทางตลอด ถนัดกว่าการดูผ่านมือถือระหว่างทาง

ในทางตรงกันข้ามก็มีไรเดอร์บางคน ไม่เห็นด้วย เพราะถ้าจะให้ใส่หูฟังตลอดก็ไม่ชิน แถมยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกด้วย เพราะต้องซื้อหูฟังใหม่ รถคันหลังขับมาก็ไม่ได้ยินเสียง ต้องคอยแยกสมาธิ ดูทางบนถนน ฟังเสียงจากหูฟังอีก แต่หากถามเรื่องความปลอดภัยและกฎหมายส่วนรวมก็เห็นด้วยและยินดีปฎิบัติตาม