ปวีณา พาเหยื่ออุปโลกน์ลัทธิ ร้องรอง ผบ.ตร.

เช้านี้ที่หมอชิต - งวดเข้ามาทุกทีสำหรับคดีเจ้าลัทธิประหลาดหรือที่รู้จักกันในนามลัทธิฮารุ ซึ่งกักขัง 3 อดีตพยาบาลพร้อมลูกอีก 2 คนไว้ในห้องพัก ของคอนโดแห่งหนึ่ง ย่านอรุณอมรินทร์ จนตำรวจตามไปจับกุมตัวเจ้าลัทธิพร้อมลูกน้องได้อีก 1 คน

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (20 ต.ค.) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ได้นำตัวผู้เสียหายมาพบ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ตำรวจขยายผลคดีนี้ให้เป็นคดีค้ามนุษย์ซึ่งจะมีโทษบทหนักกว่าคดีฉ้อโกง

ผู้เสียหายให้การว่า รู้จักกับนายฮารุ เนื่องจากอ้างว่าเป็นแพทย์ที่จะมาดูแลชาวอเมริกันที่มารักษาตัวในประเทศไทย ด้วยบุคลิกที่น่าเชื่อถือ จึงพูดคุยจนสนิทสนมและชวนมาทำธุรกิจลักษณะเหมือนขายสินค้าประเภทอาหารเสริม โดยจะพาตระเวนไปออกงานตามที่ต่าง ๆ ในลักษณะของการร่วมลงทุน จากนั้นไม่นานก็เริ่มกล่อมให้ลาออกจากงาน เพื่อมาทำงานขายตรง โดยอ้างว่าหากยังเป็นพยาบาล ก็อาจจะกระทบต่อธุรกิจ ซึ่งเมื่อลาออกเงินที่ได้จากการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดเกือบล้านบาท ก็ถูกนายฮารุยึดเอาไว้ทั้งหมด ผ่านไปได้ไม่นานเริ่มบอกว่าธุรกิจไปได้ไม่สวยและมีค่าปรับจำนวนมาก จึงกลายเป็นที่มาของหนี้สินทิพย์ เกือบ 10 ล้านบาท เมื่อหาเงินไม่ได้ก็จะถูกทุบตีและทำร้ายร่างกาย หลอกว่าจะทุบตีลูกทั้ง 2 คน แย่ที่สุดคือการถูกเตารีดร้อน ๆ นาบเข้าที่ผิวหนังและใช้น้ำร้อนเดือด ๆ ราดตามลำตัวจนเป็นแผล ซึ่งเธอบอกว่าดิ่งมากถึงขนาดอยากฆ่าตัวตายถึง 2 ครั้ง ขณะเดียวกันเธอยังถูกบังคับให้เซ็นยกบุตรให้ เพื่อเป็นการประกันว่าเธอจะชำระหนี้ทั้งหมดให้แก่นายฮารุ

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ระบุว่านอกจากเหยื่อที่ตำรวจช่วยเหลือออกมาได้ตอนนี้มีเหยื่อรายใหม่ซึ่งเดินทางมาจากจังหวัดนครปฐมและราชบุรีมาแสดงตัวเพิ่มอีกสองคน จึงอยากให้ตำรวจเร่งขยายผลการดำเนินคดีที่มีโทษบทหนัก

ด้านรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า ได้มีการคัดแยกเหยื่อไปแล้วในรอบแรก หากพยานหลักฐานเข้าข่ายคดีการค้ามนุษย์ก็จะดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด ซึ่งเรื่องนี้ไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้ เพราะเป็นการกระทำที่โหดร้าย

ผู้เสียหายยังขอให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ช่วยไปพูดคุยกับเจ้าหนี้ที่ไปกู้ยืมเงินมา ว่าขอเวลาในการตั้งตัวซักระยะ เพื่อหาเงินมาชดใช้ ยืนยันว่าจะไม่หนี ตอนนี้สภาพจิตใจดีขึ้น แต่ก็ยังหวาดผวา โดยเฉพาะเด็กทั้งสองคน ซึ่งยังอยู่ในความดูแลของทีมสหวิชาชีพพร้อมกับพยาบาลอีกหนึ่งคนที่ตกเป็นเหยื่อ