ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

เปิดหลักฐาน ผบก.ภ.จว.นราธิวาส สนับสนุนยาเสพติด

ข่าวอาชญากรรม 21 ตุลาคม 2565 - สนามข่าว 7 สี - ต้องบอกว่าเป็นเรื่องใหญ่สะเทือนวงการสีกากีอีกครั้ง ที่มีการร้องเรียน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เพราะพบว่าได้ให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ จนมีคำสั่งให้ย้ายผู้บังคับการฯ นายดังกล่าว ส่วนที่มาที่ไปของคดีนี้ นายอัจฉริยะ ได้นำหลักฐานไปเปิดเผยกับสื่อมวลชน ก่อนส่งมอบให้ตำรวจ

เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นจากที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ไปยื่นหนังสือเพื่อขอให้ตำรวจ บก.ปปป. ดำเนินคดีกับ พลตำรวจตรี แวสาแม สาและ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังมีข้อมูลและหลักฐานว่า ได้ออกบัตรลงลายมือชื่อให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ จนเป็นเหตุให้ตำรวจเกรงกลัวอิทธิพลบุคคลที่นำบัตรดังกล่าวมาใช้

หลังจากนั้น ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 ก็ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมา พร้อมกับรายงานเรื่องนี้ให้ พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทราบ จนมีคำสั่งย้าย พลตำรวจตรี แวสาแม ให้ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ขณะที่วานนี้ นายอัจฉริยะ ก็ไปนั่งถือป้ายภาพหลักฐานความเชื่อมโยง กลางทางเดินเท้าใกล้ ๆ กับประตูทางเข้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อธิบายที่มาที่ไปคดีนี้อีกครั้ง เช่น ได้รับข้อร้องเรียนมาจากตำรวจ และชาวบ้านในพื้นที่อย่างไร, อะไรบ้างที่เป็นข้อพิรุธว่า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ พร้อมกับบอกว่า ที่นำหลักฐานทั้งหมดนี้ออกมาเปิดเผย และส่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติใช้เป็นหลักฐาน เพราะต้องการให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และต้องการให้มีคำสั่งออกจากราชการ เนื่องจากรับไม่ได้ที่ไปช่วยเหลือผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดียิงตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก เสียชีวิต และยังมีหลักฐานที่เชื่อมโยงไปถึงการออกใบอนุญาตอาวุธปืนถึง 500 กระบอก

ขณะที่ พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มอีก 1 คณะ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในทุกประเด็นที่ นายอัจฉริยะ กล่าวอ้าง แยกจากคณะกรรมการฯ ของจเรตำรวจ ที่สั่งให้ตรวจสอบกรณีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบไปก่อนหน้านี้ โดยให้รายงานความคืบหน้าผลการตรวจสอบทุก 7 วัน หรือ 15 วัน หรือโดยเร็วที่สุด พร้อมยืนยันไม่ปกป้องคนผิด หากใครเกี่ยวข้องก็พร้อมดำเนินการทั้งทางอาญาและวินัย

เรื่องที่เกิดขึ้นหากมองว่าอาจเป็นเพราะต้องการเลี้ยง "โจร" เพื่อจับ "โจร" วิธีการแบบนี้ใช้ได้จริงหรือไม่ เราได้สอบถามไปทาง พลตำรวจตรี วิชัย สังข์ประไพ หรือ "ผู้การแต้ม" อดีตนายตำรวจ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้ความเห็นว่า เป็นหนึ่งในวิธีการที่เมื่อก่อนตำรวจนิยมใช้กัน เพราะการสืบสวนหาตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังหลาย ๆ คดี จำเป็นต้องใช้คนที่เคยกระทำผิดแบบเดียวกัน เป็นสายลับแฝงตัวสืบสวนหาข้อมูล เพียงแต่ว่าการจะใช้วิธีการนี้ก็มีขอบเขต นั่นคือคนที่ใช้งานต้องเป็นคนที่พร้อมกลับใจเป็นคนดี หรือไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับการกระทำผิดแบบเดิมอีก ที่สำคัญต้องไม่ให้คนคนนั้นนำตำรวจไปเป็นข้ออ้าง หรือไปสนับสนุนให้คนคนนั้นกระทำผิดเป็นคดีอื่น ๆ ขึ้นมาอีก ซึ่งในยุคปัจจุบันวิธีการดังกล่าวแม้เท่าที่ทราบจะยังมีใช้อยู่บ้าง แต่ก็ลดน้อยลงไป เพราะมีการแสวงหาข้อเท็จจริง หรือสามารถสืบสวนด้วยวิธีการอื่นได้

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark