เปิดใจฮีโร ป.6 ปั๊มหัวใจช่วยนักเรียนอนุบาล 2 จมน้ำ

ข่าวสังคม 25 ตุลาคม 2565 - สนามข่าว 7 สี - ช่วงนี้ปิดเทอม ต้องระวังเรื่องเด็กจมน้ำ ล่าสุดเกิดขึ้นแล้วที่เขตมีนบุรี เป็นกรณีเด็กอนุบาล 2 อายุ 6 ขวบ โรงเรียนศาลาคู้ กำลังจมน้ำ พอดีรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกัน เป็นนักเรียนชั้น ป.6 ผ่านไปแถวนั้น จึงช่วยชีวิต ทำ CPR กู้สัญญาณชีพให้ฟื้นกลับมา จนอาการปลอดภัย

ทีมข่าวเปิดใจฮีโรตัวน้อย ชื่อ น้องหมัด เด็กชายศิราพัช ศรีงาม อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนศาลาคู้ เล่าว่า จุดเกิดเหตุอยู่ภายในซอยราษอุทิศ 70 น้องชั้นอนุบาล 2 ไปนั่งเล่นช้อนปลาในน้ำ แล้วพลาดท่าตกน้ำ ซึ่งคนตกปลาที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงรีบพาน้องขึ้นฝั่ง พร้อมตะโกนขอความช่วยเหลือ เพราะน้องหมดสติไปแล้ว

ระหว่างนั้น น้องหมัด แวะมาเล่นบ้านเพื่อน ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จึงลงมือปั๊มหัวใจ ทำ CPR ทันที โดยใช้เวลาปั๊มหัวใจ 2 เซ็ต หรือประมาณ 5 นาที จากนั้นน้องก็สำลักน้ำออกมา ได้สติ จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล และมีอาการปลอดภัย

น้องหมัด เล่าอีกว่า หลักสูตรการปั๊มหัวใจ ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ตนเพิ่งเรียนมาก่อนปิดเทอม เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม จึงมั่นใจว่าสามารถทำ CPR ได้ และรู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยชีวิตผู้อื่น

ขณะที่ ครูประจำชั้นชื่มชมในความกล้าหาญของลูกศิษย์ ตัดสินใจไม่รอช้า ลงมือช่วยชีวิตคนจมน้ำทันที ซึ่งนิสัยส่วนตัวของลูกศิษย์คนนี้ น้องหมัดเป็นเด็กกิจกรรม ชอบช่วยเหลืองานโรงเรียน อัธยาศัยดี เป็นที่รักของคุณครูและเพื่อน ๆ

มาดูข้อมูลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการจมน้ำ ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 จนถึงเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ตกน้ำ จมน้ำ เกิดขึ้น 184 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 174 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี

สำหรับสถานที่เกิดเหตุ อันดับ 1 เป็นคลอง รองลงมาเป็น แหล่งน้ำที่ใช้ในเกษตรกรรม, ทะเล และสระว่ายน้ำ ส่วนปัจจัยที่ทำให้เสียชีวิตจากการจมน้ำ ได้แก่ ว่ายน้ำไม่เป็น, ไม่มีทักษะการเอาชีวิตรอด และลงเล่นน้ำโดยไม่แจ้งผู้ปกครอง หรือไม่มีผู้ปกครองดูแลใกล้ชิด

กรมควบคุมโรค แนะ 3 วิธี หากพบคนจมน้ำ ตกน้ำ ให้ "ตะโกน โยน ยื่น" ตะโกนเพื่อขอความช่วยเหลือ และโทรแจ้งทีมแพทย์กู้ชีพ 1669, โยน คือใช้อุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัว โยนลงไปช่วยคนตกน้ำ ให้เกาะพยุงตัวเอง ซึ่งต้องเป็นอุปกรณ์ลอยน้ำได้ และยื่นให้ใช้อุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัว ให้คนตกน้ำจับ เช่น ไม้ เสื้อ ผ้าขาวม้า เพื่อดึงคนตกน้ำเข้าฝั่ง