ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

รอง ผบ.ตร. ยืนยันหลักฐานแน่น ดำเนินคดีชุดปฏิบัติการพิเศษ ฝ่ายปกครอง จ.สงขลา

ข่าวภาคค่ำ - ตำรวจเตรียมแจ้งเพิ่มอีกหลายข้อหากับเจ้าหน้าที่รัฐ จังหวัดสงขลา เรียกรับผลประโยชน์คดียาเสพติด หลังแจ้งไปแล้ว 2 ข้อหาหนัก ขณะที่หัวหน้าชุดฯ พร้อมลูกน้อง ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างทำหน้าที่ ตามแผนภารกิจ ขอต่อสู้ในชั้นศาล

พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้าคดีคนร้ายชิงยาบ้า 20,000 เม็ด และต้องการชิงตัว นายธนกร ผู้ต้องหายาเสพติด จากชุดปฏิบัติการพิเศษ ฝ่ายปกครอง จังหวัดสงขลา ในพื้นที่อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา

ซึ่งตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 9 จับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 5 คน และยังหลบหนีอีก 3 คน แต่การสืบสวนพบเจ้าหน้าที่ชุดนี้ มีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์ โดยมีหลักฐานสำคัญ ทั้งผู้ก่อเหตุทั้งหมดให้การตรงกัน และข้อความแชตในแอปพลิเคชันไลน์ ซึ่งมีการส่งเลขบัญชีให้กลุ่มผู้ก่อเหตุ โดยระบุเรียกรับเงิน 1 ล้านบาท หรือ ไอซ์ 10 กิโลกรัม หรือ ยาบ้า 100 มัด 200,000 เม็ด จากขบวนการยาเสพติด เพื่อแลกกับการปล่อยตัว นายธนกร

กระทั่งขออำนาจศาลจังหวัดสงขลา ออกหมายจับ จ่าเอกไพรัช หัวหน้าชุด กับลูกน้อง รวม 6 นาย ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน  หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่

วันนี้ จ่าเอกไพรัช กับลูกน้อง เข้าให้ปากคำ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ภาค 9 ร่วมสอบปากคำด้วย โดยทั้งหมดปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอต่อสู้คดีในชั้นศาล ขณะที่ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหาแจ้งความเท็จ และข้อหาอื่น ๆ เพิ่มเติม

และช่วงเย็นที่ผ่านมา แม่ผู้ต้องหาคดียาเสพติดในอำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา เข้าร้องสื่อมวลชน ลูกชายถูกเจ้าหน้าที่ชุดนี้จับกุมคดียาเสพติด และเรียกรับเงิน​แลกกับการให้ปล่อยตัว จากนั้นเรียกเพิ่มอีก อ้างว่านำไปล่อซื้อยาเสพติด แต่สุดท้ายลูกชายก็ถูกดำเนินคดี ทั้ง ๆ ที่ยอมจ่ายเงิน 200,000 บาท

ด้าน พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนตรวจสอบประวัติย้อนหลังผู้ต้องหาชุดปฏิบัติการพิเศษดังกล่าวทุกนาย ว่าเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์หรือยาเสพติดในการปฏิบัติภารกิจที่ผ่านมาหรือไม่ หากพบจะรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินคดีเพิ่มเติม

ด้าน กระทรวงมหาดไทย สั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ตั้งคณะกรรมการสอบสวน หากพบว่าทำผิดจริง ต้องมีการลงโทษทางวินัย ส่วนคดีอาญาให้เป็นไปตามขั้นตอนของพนักงานสอบสวนและอัยการ

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark