นาล่มกว่า 40 ไร่ ชาวนาร้องขอ ธ.ก.ส.พักหนี้ จ.บุรีรัมย์
เช้านี้ที่หมอชิต - ชาวนาในจังหวัดบุรีรัมย์ ร้องขอให้ ธกส. ลดดอกเบี้ยเงินกู้ พร้อมกับพักชำระหนี้ หลังนาข้าวถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ไม่มีแม้แต่ข้าวจะเก็บเกี่ยวไปบริโภคในครัวเรือน
สภาพน้ำท่วมขังนาข้าว ในตำบล และอำเภอแคนดง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็น 1 ในพื้นที่เกษตรกรรมกว่า 3 แสนไร่ของทางจังหวัด ที่ถูกน้ำท่วมขังนานเกือบ 2 เดือน ต้นข้าวในนาเน่าเสียหายทั้งหมด ไม่เหลือให้เกษตรกรเก็บเกี่ยว แม้แต่จะนำไปบริโภคในครัวเรือน
คุณลุงเฉลิม บำรุงกุล เจ้าของแปลงนาบอกว่า ปีนี้น้ำท่วมหนัก ต้นข้าวที่ปลูกไว้ยังไม่ทันออกรวง ก็มาถูกน้ำท่วมทั้งหมด ต้องปล่อยให้ต้นข้าวเน่า เพราะไม่มีอะไรจะให้เก็บเกี่ยว ทำให้ไม่มีเงินไปชำระหนี้ให้ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ต้องขอความเห็นใจให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงขอพักชำระหนี้เป็นเวลา 2-3 ปี เรื่องที่จะให้ไปกู้ยืมเงินมาเป็นทุนปลูกข้าวรอบใหม่ คุณลุงเฉลิมบอกว่า จะให้ลุงไปกู้มาทำไมอีก หนี้เก่าก็ยังใช้ไม่หมด ก็จะกลายเป็นดินพอกหางหมู ถ้าเปรียบตนเองเป็นหมู ตอนนี้หมูก็ยกหางไม่ขึ้นแล้ว
คุณลุงบอกว่า นาข้าวที่ถูกน้ำท่วมมีทั้งหมด 41 ไร่ แปลงนาบางจุดที่อยู่สูง ยังรอดไม่ถูกน้ำท่วม แต่ก็เป็นส่วนน้อย หากน้ำไม่ท่วมแบบนี้ ก็คาดว่าจะขายข้าวได้เงินสัก 300,000-400,000 บาท ก็ยังแบ่งไปใช้หนี้คืนได้ แต่พอเป็นอย่างนี้แล้ว ก็ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปใช้หนี้ ก็ขอให้เห็นใจชาวนาด้วย
ซึ่งจังหวัดบุรีรัมย์ ประกาศพื้นที่ประสบอุทกภัย 23 อำเภอ
น้ำท่วม อากาศเย็น ชะอมแตกยอดน้อยลง ราคาพุ่งแตะ กก.ละ 100 บาท จ.พิจิตร
จากเรื่องเดือดร้อนของเกษตรกร ไปดูเรื่องที่ทำให้เกษตรกรยิ้มได้กันบ้าง ปัจจัยมาจากเรื่องน้ำท่วมเหมือนกัน กรณีนี้ต้องบอกว่า เป็นไปตามหลักการด้านเศรษฐศาสตร์ เรื่องของดีมานด์ - ซัพพลาย จริง ๆ
ที่จังหวัดพิจิตร ชาวสวนชะอมในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลดงกลาง อำเภอเมือง ก็เร่งตัดยอดอ่อนของชะอมส่งขาย เพราะตอนนี้ราคาชะอมพุ่งสูงขึ้น ราคาขายให้พ่อค้าคนกลางที่มารับซื้อถึงหน้าสวน ขายกันที่กิโลกรัมละ 90 บาท ถึง 100 บาท แต่ถ้าจัดแบ่งเป็นกำ ๆ แบบที่แม่ค้าวางขายกันในตลาด น้ำหนักประมาณ 2 ขีด จะขายกันกำละ 18 บาท ถึง 20 บาท จากปกติที่ขายเพียงกำละ 7-8 บาท เท่านั้น ราคาดีขนาดนี้ก็เลยต้องเร่งตัดยอดอ่อนส่งขาย จนชะอมแตกยอดแทบไม่ทัน
ชาวสวนบอกว่า สาเหตุที่ชะอมราคาพุ่งกว่าเท่าตัวนี้ มาจากภาวะน้ำท่วม และอากาศที่เย็นลง ทำให้ชะอมแตกยอดน้อย ของมีน้อยแต่ตลาดต้องการ ราคาก็สูงขึ้นเป็นธรรมดา
