ชูวิทย์ แฉ ยังมีผับลับ-นายทุนจีน อีกมาก
เช้านี้ที่หมอชิต - เรื่องการเข้าตรวจสอบและจับกุมผับลับ "จินหนิง" อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ของการสุ่มตรวจสอบผับอีกหลาย ๆ แห่งหลังจากนี้ เพราะข้อมูลที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ รวบรวมจะไปมอบให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ข้างในนั้นมีข้อมูลผับลับอีกหลายแห่ง ที่ขอให้ตำรวจเข้าตรวจสอบ
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ผู้คร่ำหวอดวงการธุรกิจสีเทา นัดสื่อมวลชนมาฟังการชี้แจงถึงเรื่องนี้ หลังตำรวจนครบาลบุกค้นผับลับ "จินหนิง" ย่านยานนาวา จับกุมนักท่องเที่ยว พนักงานในสถานบันเทิง ได้ 266 คน พร้อมของกลางยาเสพติดจำนวนมาก
โดย นายชูวิทย์ อธิบายจากแผนผังความสัมพันธ์ว่า ผับลับ แบบนี้ เริ่มต้นอย่างไร เกี่ยวข้องกับนายตำรวจ นักการเมืองอย่างไร ส่วนที่ทำไมถึงเรียกสถานบันเทิงแบบนี้ว่า "ผับศูนย์เหรียญ" ก็เพราะว่าเจ้าของนายทุนเป็นคนจีน ของทุกอย่างมาจากประเทศจีนทั้งหมด เข้ามาทำธุรกิจสีเทาแบบที่ไม่เกรงใจคนไทยแม้แต่น้อย มีการจ่ายเงินใต้โต๊ะให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่ออำนวยความสะดวก ซึ่งเท่าที่ทราบ ผับลับ แบบนี้มีอยู่ในย่านรัชดาภิเษก, สุทธิสาร, ห้วยขวาง, พระราม 3 และพัทยา บางผับเปิดให้บริการครบวงจร มีบ่อนพนันในนั้นด้วย ซึ่งคราวนี้ข้อมูลที่รวบรวมได้จะไม่แค่นำมาแฉอย่างเดียวแล้ว แต่จะส่งต่อให้ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับไปตรวจสอบและปราบปรามต่อไปด้วย
ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดี เมื่อวานนี้ตำรวจได้ทำการคัดแยกนักเที่ยวและพนักงานรวม 266 คน ที่พบอยู่ในผับลับ จำนวนนี้มีคนที่มีผลตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง 104 คน และมีคนต่างชาติ 125 คน ที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง รับตัวไปตรวจสอบและดำเนินคดี
ส่วน นายไฮเทา หวง อายุ 39 ปี สัญชาติจีน ที่รับเป็นผู้ดูแลสถานที่ ให้การรับสารภาพว่า รับยาเสพติด มาจากย่านพัทยา จำหน่ายต่อให้กับลูกค้าในผับ ในราคาซองละ 10,000 - 30,000 บาท ซึ่งผลการตรวจสอบยังพบว่า สถานที่ดังกล่าวเคยเปิดเป็นบ่อนพนัน ก่อนจะปิดตัวแล้วเปิดเป็นสถานบันเทิง นอกจากนี้ยังพบว่าผับลับดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านรัชดาฯ และยังมีชาวจีนอีก 1 คน มีส่วนเกี่ยวข้อง
และจากกรณีการบุกเข้าตรวจค้นดังกล่าว พลตำรวจตรี นครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 มีคำสั่งย้าย พันตำรวจเอก ธนโชติ ฤกษ์ดี ผู้กำกับการ สน.ยานนาวา ไปปฏิบัติการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 โดยขาดจากตำแหน่งเดิม มีผลตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคมเป็นต้นไป
เรื่องนี้ พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า เป็นการสั่งย้ายผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ที่ผ่านมามีตำรวจในพื้นที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือปล่อยปละละเลยหรือไม่ ซึ่งการบุกตรวจค้นสถานบันเทิงลักษณะนี้จะมีเรื่อย ๆ ตามนโยบายของรัฐบาล
